รอง ผอ.สพม.เขต1 เผยสั่งย้าย ครูพละ โรงเรียนสตรีดังแล้ว! ปมตกเป็นผู้ต้องสงสัยฉุดนักเรียนหญิงขึ้นเบนซ์ลากขืนใจในห้อง-อัดคลิปขู่ คาด 7 วันรู้ผลสอบข้อเท็จจริง ชี้โทษสูงสุดไล่ออก ด้าน เจ้าตัวโร่แจ้งความ ยันผู้หญิงในรูปคือภรรยา ไม่ใช่นักเรียน
จากกรณีมีการเปิดเผยเรื่องราวของอาจารย์โรงเรียนสตรีชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ทำอนาจาร ข่มขืนนักเรียนหญิงหลายราย และแอบบันทึกวิดีโอไว้ข่มขู่ด้วย กระทั่งเด็กทนไม่ไหวจึงฟ้องพ่อแม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : “ครูโรงเรียนสตรีดัง” ฉุดนักเรียนขึ้นเบนซ์ ลากขืนใจในห้อง 4 ครั้ง อัดคลิปขู่
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มี.ค. ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านฝั่งธนฯ นายธนารัชต์ สมคเณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 1 กรุงเทพมหานคร (สพม.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการสั่งย้ายครูพละที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเรื่องที่เกิดขึ้น ไปประจำที่ สพม.แล้ว ส่วนการสืบสวนทั้งครูและนักเรียนนั้น อยู่ระหว่างสืบสวนข้อเท็จจริง
นายธนารัชต์กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเรื่องนั้น สำนักงานเขตการศึกษาได้มีคำสั่งย้ายครูที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยให้ไปประจำที่ สพม. จนกว่าจะมีการสอบสวนแล้วเสร็จ เพราะเกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและตัวเด็กที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 7 วันจะทราบผลสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งเบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบทั้งหมด 5 คน โดยมีทั้งครูในโรงเรียนและคนนอก เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายธนารัชต์กล่าวอีกว่า สำหรับการสอบปากคำนักเรียนที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหายนั้น ยังไม่ได้มีการเรียกนักเรียนมาสอบปากคำ เนื่องจากต้องรอประสานกับ สพฐ. และสหวิชาชีพก่อน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเจรจาพูดคุยกับนักเรียน เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็ก
“ส่วนด้านผู้ปกครองกรณีที่มีภาพเผยแพร่ทางโซเชี่ยลและมีข้อความว่าผู้หญิงในภาพเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนที่เกิดเหตุ ผู้ปกครองยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวที่ถ่ายภาพกับครูพละไม่ใช่ลูกของตนเอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลว่าเป็นใคร หากผลการสอบพบว่าครูพละรายนี้ได้กระทำอนาจารเด็กจริงโทษสูงสุดคือไล่ออก” นายธนารัชต์กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า จากภาพที่มีการแชร์ในโซเชี่ยลเป็นภาพครูพละและหญิงสาวที่อยู่ในลักษณะโป๊เปลือยนั้น ล่าสุดครูพละได้เข้าไปแจ้งความกับ สน.บางกอกน้อย แล้ว ในข้อหานำภาพอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากว่าผู้หญิงในรูปนั้นคือภรรยาของครูพละเองและไม่ใช่เด็กนักเรียนแต่อย่างใด ส่งผลให้ภรรยาและครูพละได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
