จากกรณี ชายปีนขึ้นไปบนเสาโทรศัพท์ พร้อมเขียนข้อความว่า “ขอความกรุณายกเลิกมาตรา 44 หากไม่ทำก่อนเวลา 21.15 น. เก็บศพได้เลย” พร้อมทั้งเขียนว่า “พระเณร คนแก่ ถูกข่มเหง รังแก ด้วยวิธีต่างๆ นานา สังคมปัจจุบัน คนดีอยู่ยาก” กระทั่งมาผูกคอเสียชีวิตบนเสาโทรศัพท์ดังกล่าว เมื่อช่วงหัวค่ำของวัน ที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 ก.พ. ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 พ.ต.อไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ เข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์และวางแนวทางการเข้าตรวจค้นพระธรรมกาย ซึ่ง พ.ต.อไพสิฐ แสดงความเสียใจแก่นายอนวัช ธนเจริญณัฐ อายุ 64 ปี ที่เรียกร้องให้รัฐบาล ยกเลิกคำสั่ง คสช.มาตรา 44 ที่ประกาศให้บริเวณโดยรอบและวัดพระธรรมการเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ในเบื้องต้น ได้กำชับสั่งการให้เพิ่มการเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมการลอกเลียนแบบในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ในส่วนของการเตรียมกำลังนั้น ยืนยันว่ามีการสั่งเตรียมกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน พร้อมอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. ถือเป็นการสั่งเตรียมพร้อมตามปกติ เพราะตำรวจยืนยัน การใช้แผนปฏิบัติการทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนจาก เบาไปหาหนัก โดยมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นเจ้าภาพหลักในการพิจารณา และที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยึดหลักการการเจรจา โดยไม่ใช้ความรุนแรงมาโดยตลอด
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าว เป็นการตายแบบผิดธรรมชาติ เพราะฉะนั้น พนักงานสอบสวนก็ต้องร่วมกับแพทย์ ชันสูตรพลิกศพ ทั้งนี้ก็ได้นำศพไปที่สถาบันนิติเวชตำรวจแล้ว ซึ่งมีการสอบปากคำญาติภรรยาและลูกไว้แล้ว ส่วนขั้นต้องชันสูตรเป็นยังไงต้องรอคำตอบจากทางแพทย์ จากการเสียชีวิตนั้นจะมีผลอะไรตามมาหรือไม่นั้น ซึ่งเหตุการดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา นำเรียนว่าในการทำงานเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่สนับสนุนให้กับทาง ดีเอสไออยู่แล้ว ในเรื่องของทางการข่าว
“ในการระวังบุคคลที่ 3 เราดูแลกันอย่างเต็มที่ ในส่วนที่มีการขึ้นไปนั้นยังไม่ได้รับรายงาน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของสภ.คลองหลวง ซึ่งในช่วงเช้าจะมีการประชุมสรุปผลรวมในช่วงเช้านั้นเป็นอย่างไร ลุงที่ผูกคอดังกล่าวทราบว่าเป็นพ่อค้าขายผลไม้อยู่บริเวณภายในวัดพระธรรมกาย ในส่วนที่ว่าเป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกายหรือไม่นั้นก็คงต้องรอการตรวจสอบ ในส่วนของมาตราการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำนั้นซึ่งต้องรอการหารือและประเมินสถานการณ์กันอีกครั้งว่าจะดำเนินการเป็นเช่นไร ซึ่งต้องรอผลการประชุมในช่วงเช้าต่อไป”พ.ต.อ.กฤษณะ
