วันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 23.30 น. วันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.นวรัตน์ ซายเขว้า รอง สว.(สอบสวน) สภ.เนินสง่า ชัยภูมิ รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถยนต์เก๋งเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าริมทางมีผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ภายในรถ บริเวณบนถนนหลวงหมายเลข 201 สายชัยภูมิ-สีคิ้ว หลัก กม.115 มุ่งหน้ากทม. จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ
ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า อัลติส สีขาว ป้ายทะเบียน 1กศ 5426 กทม. สภาพพังยับตัวหัวด้านหน้าอัดเข้ากับเสาไฟฟ้าจนหักและเกิดประกายไฟเป็นระยะ ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บยังนั่งตั้งสติภายในรถคันดังกล่าว รถฉุกเฉินของโรงพยาบาลชัยภูมิได้ผ่านมาพบเจอเหตุพอดี จึงลงให้การช่วยเหลือและเร่งนำส่งโรงพยาบาลชัยภูมิโดยด่วนด้วย ห่างจุดเกิดเหตุบนถนนประมาณ 200 เมตร พบยางล้ออะไหล่รถใหญ่ 10 ล้อ ตกอยู่เลนขวามุ่งหน้ากทม.
เบื้องต้นสอบถามไปยัง นายพิพัฒน์ กาดสันเที๊ยะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านโคกแพงพวย หมู่ที่ 3 ต.กะฮาด อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ ให้การว่า ขณะตนกำลังนั่งพักผ่อนดูทีวีอยู่หน้าบ้าน ได้ยินเสียงดังโครมคล้ายเสียงรถชนสนั่น จึงรีบวิ่งไปดู ก่อนวิ่งข้ามถนนออกมาช่วยเหลือ และยังกล่าวต่ออีกว่า ขณะเกิดเหตุยังเห็นรถยนต์ที่ขับผ่านไปมาได้หักหลบล้ออะไหล่ดังกล่าวอย่างกะทันหันแทบทุกคันเกือบจะเกิดอุบัติเหตุเพิ่มเติมอีก เพราะในจุดเกิดเหตุบริเวณตั้งแต่แยกทางเข้า อ.เนินสง่า นั้นจะมืดสนิทไม่มีแสงไฟส่องสว่างเลย อาจไม่ทันมองเห็นยางอะไหล่ดังกล่าวจึงได้ชนหรือหักหลบและเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าเข้าอย่างจัง เคราะห์ดีที่ไม่มีรถเกิดชนเข้ากับยางเส้นนี้อีก ก่อนที่เจ้าหน้าที่มาถึง จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้ามาติดตั้งไฟส่องสว่างให้เป็นการด่วนด้วย เพราะเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้งแล้วในบริเวณนี้
ด้าน ร.ต.อ.นวรัตน์ ซายเขว้า รอง สว.(สอบสวน) สภ.เนินสง่า กล่าวว่า สาเหตุเบื้องต้นน่าจะมาจากรถเก๋งหักหลบล้อยางอะไหล่อย่างกะทันหันจึงได้เสียหลักพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าริมทางอย่างจังทำให้ได้รับบาดเจ็บซึ่งทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.รณิดา เดชะเบญจพร อายุ 30 ปี อยู่หมู่ที่2 ต.บ้านกอก อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ทำงานเป็นเภสัชกร อยู่ รพ.จัตุรัส ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดแล้ว และอาการได้ดีขึ้นตามลำดับส่วนล้ออะไหล่ ซึ่งน่าจะเป็นของรถบรรทุกที่ใช้สัญจรผ่านจุดนี้เป็นประจำแล้วมัดยางอะไหล่ไม่แน่น ทำให้หลุดร่วงหล่นลงบนพื้นถนน ทำให้มีผู้เดือดร้อน จึงอยากฝากเตือนไปถึงผู้ใช้รถใช้ถนนบรรทุกของที่จะเสี่ยงต่อการทำสิ่งของของร่วงหล่น โปรดตรวจสอบสิ่งของร่วงบนพื้นผิวถนนมิฉะนั้นจะมีความผิดในข้อหา ทำสิ่งของตกหล่นบนพื้นผิวการจราจร หรือกระทำโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหายมีโทษทางกฎหมาย ซึ่งทางจนท.จะเร่งตรวจสอบและหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง เพื่อหาตัวเจ้าของยางอะไหล่ รายนี้มาดำเนินคดีต่อไปด้วย
