เชียงรายวิกฤตหนัก หมอกควันพุ่งเกินค่า ไฟป่า ฟ้าหม่นทึบทั้งเมือง สังเวยชีวิตแล้ว 1 ศพ หลังเหตุไฟป่า

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าด่านพรมแเดนไทย-พม่า ด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ยังคงพบว่าอยู่ภาวะวิกฤตเนื่องจากยังคงมีหมอกควันไฟปกคลุมอย่างหน้าแน่นจนท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือส้มออกแดง

โดยกรมควบคุมมลพิษได้ตรวจวัดสภาพฝุ่นละอองขนดาเล็กในอากาศ ค่าพีเอ็ม 2.5 และค่าพีเอ็ม 10 ทะลุขึ้นไปสูงกว่า 300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทำให้ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ตลอดจนนักท่องเที่ยวต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันอันตรายจากฝุ่นละอองดังกล่าว

ล่าสุดทางเทศบาลตำบลแม่สายและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต้องระดมรถนำเข้าทำการฉีดพ่นละอองน้ำสร้างความชุ่มชื้นทางอากาศ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองให้เบาบางลง เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะให้กับชาวบ้าน โดยปัญหาหลักยังคงเกิดการเผาไร่และเผาป่าในพื้นที่ชาแยดนทั้งฝั่นประเทศเมียนมาและประเทศไทย

โดยทางชาวบ้านอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำฝนหลวงหรือฝนเทียม เพื่อชำระล้าง เนื่องจากรอฝนจากธรรมชาติยังไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นทั้งนี้หลายงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้มีการเปิดขอรับบริจาคหน้ากากอนามัยจากผู้มีจิตศรัทธาเพื่อนำมาแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะหน้ากาก n95 ซึ่งเป็นหน้ากากที่ป้องกันฝุ่นได้ดี แต่เนื่องจากหน้ากากมีราคาสูงและในพื้นที่ขาดตลาด

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ประสานขอความร่วมมือกับทางอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งทั้ง 18 อำเภอให้ระดมฉีดพ่นละอองอย่างต่อนเองวันละอย่างน้อย 1-2 รอบเพื่อลดปริมาณหมอกควัน

หากสถานการณ์ยังไม่มีคลี่คลายหรือรุนแรงขึ้นก็เตรียมที่จะประสานขอเครื่องบินเพื่อมาโปรยน้ำทางอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาช่วยอีกทางหนึ่ง โดยยังประกาสงดเผาในพื้นที่ทุกชนิดจนถึงวันที่ 15 เมษายน 2562

ทั้งนี้มีรายงานว่าทางว่าที่ ร.ต.กรกฎ ประเสริฐวงษ์ นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง ได้แจ้งรายงานถึงนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ว่า ในช่วงที่เกิดไฟไหม้ป่าตามพื้นที่สูงเขตระหว่างหมู่บ้านป่าคาสุขใจ ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง ติดต่อกับหมู่บ้านป่าตึง ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ในเวลา 01.00 น.ทางหน่วยงานต่างๆ ใน อ.แม่ฟ้าหลวง ได้ระดมกำลังทั้งเจ้าหน้าที่และอาสาสามัครชาวบ้าน เข้าไปดับไฟเพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามต่อไป

แต่ขณะที่ปฏิบัติการได้มีนายอาโล๊ะ อาซังกู่ ซอายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 164 หมู่ 5 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง ซึ่งถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยและได้ร่วมในการดับไฟ เกิดพลัดตกจากภูเขาศีรษะกระแทกพื้นจนเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุ หลังเกิดเหตุชาวบ้าน ช่วยกันเก็บกู้ศพ ขึ้นมาจากช่องเขาแล้ว


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน