ครอบครัว ‘เจ้าแม็กซ์’ อัจฉริยะ วิโรจน์สุโนบล แชมป์สภามวยแห่งเอเชีย ร้องกองปราบปราม หลังเจ้าแม็กซ์ถูกจับคดีพัวพันยาเสพติด เมียหอบหลักฐานยื่นตร. ยันสามีบริสุทธิ์

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุม นายอัจฉริยะ วิโรจน์สุโนบล หรือ “เจ้าแม็กซ์ อัจฉริยะ อำนาจมวยไทยยิม” นักมวยแชมป์สภามวยแห่งเอเชีย (WBCเอเชีย) รุ่นซูเปอร์ไลทเวต ขณะเดินทางไปชกอุ่นเครื่องที่ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา ข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 1 หรือ ยาบ้า ไว้เพื่อจำหน่าย หลังพบว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด กรณีตำรวจ สภ.เมืองระนอง จับกุมขบวนการขนยาเสพติด 5 คน พร้อมของกลางยาบ้า 3.4 ล้านเม็ด ที่จุดตรวจ ริมถ.เพชรเกษม อ.เมืองระนอง เนื่องจาก 1 ในผู้ต้องหาชัดทอดถึงนายอัจฉริยะ จนนำไปสู่การจับกุมตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เจ้าแม็กซ์ / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่กองปราบปราม นายเอกกวี แก้วมณี อายุ 38 ปี เจ้าของยิมเอกทวีมวยไทย จ.นครปฐม พร้อมด้วย น.ส.นลินตา จีรเดชชนดล อายุ 30 ปี นางภัทรภร ชำนาญศิลป์ อายุ 61 ปี ภรรยาและแม่ยายของ นายอัจฉริยะ วิโรจน์สุโนบล หรือเจ้าแม็กซ์ อัจฉริยะ อำนาจมวยไทยยิม นักมวยแชมป์สภามวยแห่งเอเชีย (WBC เอเชีย) รุ่นซูเปอร์ไลทเวต เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วิชิต สันติสิทธิ์มลธร รอง สว.กก.5 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากเชื่อว่านายอัจฉริยะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดดังกล่าวแต่อย่างใด โดยนำหลักฐานเอกสารต่างๆ มายื่นให้พนักงานสอบสวนเพื่อประกอบการพิจารณา

น.ส.นลินตา กล่าวว่า ตนเชื่อและยืนยันว่านายอัจฉริยะไม่เคยรู้จักกับขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มดังกล่าวมาก่อน แต่กลับถูกจับกุม ซึ่งตนเชื่อว่าที่นายอัจฉริยะถูกจับกุมนั้น น่าจะมาจากการขายรถยนต์ให้กับนายเอกกวี เมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยเป็นการขายแบบโอนลอย ก่อนจะนำรถคันดังกล่าวไปขายต่อให้กับเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2561

จากนั้นประมาณ 1 เดือน ก็มีการขายต่อให้กับ 1 ในขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นชื่อผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวยังเป็นชื่อของนายอัจฉริยะอยู่กระทั่งกลุ่มขบวนการยาเสพติดดังกล่าวถูกจับกุมพร้อมกับยาเสพติดของกลางและรถยนต์คันนี้ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2561 ที่ จ.ระนอง ที่ผ่านมา

ส่วนกรณีที่ 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมซัดทอดว่านายอัจฉริยะ มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้น น่าจะทำเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดหรือพูดลอยๆ โดยเอาข้อมูลส่วนตัวของนายอัจฉริยะ จากเอกสารสำเนาบัตรประชาชนที่แนบไปตอนที่ซื้อขายรถมาใช้เป็นคำให้การ เพราะเมื่อดูจากคำให้การของผู้ต้องหาแล้วจะพบว่ามีการเรียกชื่อเล่นของนายอัจฉริยะ ผิด ซึ่งหากรู้จักกันจริง จะต้องไม่เรียกชื่อเล่นผิดอย่างแน่นอน

ด้าน นายเอกกวี กล่าวต่อว่า ตนนำหลักฐานเป็นเอกสารการซื้อขายรถทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมภาพถ่ายประกอบการซื้อขาย ตลอดจนภาพและคลิปวีดีโอบนเฟซบุ๊ก และเอกสารการจองโรงแรมที่ยืนยันว่านายอัจฉริยะไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดระนอง ในช่วงเวลาที่มีการจับกุมแต่อย่างใด

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

แต่กำลังเข้าค่ายฝึกซ้อมมวยอยู่ที่ค่ายมวยของตนเองที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งระยะทางก็ไกลกันมาก ไม่มีทางที่นายอัจฉริยะจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ได้แน่นอน ซึ่งการเข้าร้องความเป็นธรรมต่อกองปราบในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะก่อนหน้านี้นายอัจฉริยะไม่เคยถูกออกหมายเรียก เพื่อไปให้ปากคำใดๆ แต่กลับมาถูกจับกุม

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ พร้อมกับสอบปากคำผู้ร้องไว้เป็นหลักฐาน ก่อนตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ที่ทางครอบครัวนำมามอบให้ประกอบการพิจารณา หลังจากนี้ก็จะส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน