จากกรณีเมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 เม.ย. เกิดเหตุตึกถล่มที่ร้านไดนาโม ริมถนนเพชรเกษม ฝั่งตรงข้ามกับขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หมู่ 4 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีคนหนีรอดออกมาได้ 2 คน แต่ยังคงมีคนอยู่ภายใต้ซากอีก 3 คน ทราบชื่อคือ นายไชยโรจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 54 ปี นางสิริกาญจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 52 ปี และ น.ส.ธันยากานต์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 31 ปี ลูกสาวของนายชัยโรจน์ และนางสิริกาญจน์ โดยทั้ง 5 คน เป็นพ่อแม่ลูกกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะช่วย นางสิริกาญจน์ ออกมาได้ หลังจากนั้นก็สามารถช่วยเหลือ นายไชยโรจน์ และ น.ส.ธันยากานต์ ออกมาได้ แต่พบว่า นายไชยโรจน์ ไม่มีสัญญาณชีพแล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 1 พ.ค. หลังจากทีมกู้ภัยได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งหมดนำส่ง ร.พ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้สำเร็จ นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายภิรมย์ นิลทยา รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์, นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ นายแพทย์สาธารณะสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รีบเดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจผู้บาดเจ็บที่ ร.พ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมพูดคุยให้กำลังใจญาตๆ ผู้บาดเจ็บที่เดินทางมารอที่โรงพยาบาลด้วย

ทั้งนี้ผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย นางศิริกาญจน์ ผู้เป็นแม่ และ น.ส.ธัญญกาญจน์ ลูกสาว อยู่ในภาวะวิกฤติ แพทย์ทำการรักษาและรอดูอาการข้างเคียงอย่างใกล้ชิด เนื่องจากติดอยู่ในซากบ้านที่ถล่มลงมาเป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมง ส่วนนายไชยโรจน์ ผู้เป็นพ่อ นั้นตั้งแต่ช่วยเหลือนำออกมาจากซากปรักหักพังได้สำเร็จ ตรวจไม่มีสัญญานชีพจร แพทย์พยายามช่วยชีวิตแต่เนื่องจากติดอยู่ใต้ซากที่เกิดเหตุนานเกือบ 6 ชั่วโมง ประกอบกับถูกตู้โต๊ะและแผ่นปูนเพดานบ้านทับร่างไว้อีกชั้นหนึ่ง ทำให้ขาดอากาศหายใจกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด

ทั้งนี้ นางศิริกาญจน์ เล่าว่า วันนี้ตนกลับจากทำงานเข้าบ้านเร็วกว่าปกติไป 1 ชั่วโมง เมื่อมาถึงบ้าน ได้ทำกับข้าวและเพิ่งทำเสร็จ กำลังยกมาตั้งโต๊ะเพื่อให้สมาชิกในครอบครัวได้กิน แต่ยังไม่ทันจะได้กินข้าว ก็ได้ยินเสียงเหมือนฝนตกและมีฝนแบบลูกเห็บตกใส่หลังคาบ้าน จากนั้นบ้านทั้งหลังก็พังครืนลงมาทับทันที เมื่อเกิดเหตุตนยังมีสติ พยายามมองหาสามีและลูก แต่หาไม่เจอ จากนั้นได้ใช้มือคลำหาโทรศัพท์มือถือ ก็พบว่าอยู่ใกล้ๆ มีคนโทรเข้ามาในเครื่องจำนวนมาก

แต่ไม่ตนไม่สามารถรับสายได้ ไม่อยากพูดเยอะเพราะรู้สึกว่าอากาศน้อย จึงเลือกที่จะโทรศัพท์กลับมาหาน้องชาย ซึ่งเรียนจบวิศวกรโยธา รู้แบบแปลนของบ้านว่ามีห้องอะไรบ้าง ตนได้บอกพิกัดกับน้องชายไป จากนั้นพยายามอยู่นิ่งๆ เพื่อให้หายใจได้นานที่สุด ตอนนั้นพยายามคิดแต่ว่าลูกได้ออกไปจากจุดที่เกิดเหตุแล้ว

สำหรับบ้านหลังที่เกิดเหตุนี้ ปลูกอยู่มาแล้ว 13 ปี แต่มีปัญหาฟ้องร้องในเรื่องการก่อสร้างตั้งแต่เพิ่งสร้างเสร็จ ซึ่งน้องชายที่เป็นวิศวกรโยธามาเห็นโครงสร้างก็บอกว่าเหล็กเส้นมีขนาดเล็ก เพราะผู้รับเหมาใช้เหล็กผิดขนาดต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่เหมือนกับแบบที่ระบุไว้ ครอบครัวตั้งใจว่าอีกไม่เกิน 3 ปี จะสร้างบ้านใหม่ ทุบบ้านหลังนี้ทิ้งไป แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้าย บ้านถล่มลงมาเสียก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน