“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ประทับเหนือพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ทรงรับน้ำอภิเษก

วันที่ 4 พ.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงฉลองพระองค์ครุย สายสะพายนพรัตน์ราชวราภรณ์ สายสร้อยจุลจอมเกล้า เสด็จออกจากหอพระสุราลัยพิมานเข้าพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ประทับเหนือพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ภายใต้พระบวรเศวตฉัตร แปรพระพักตร์สู่บูรพาทิศเป็นปฐม พันโทสมชาย กาญจนมณี ปฏิบัติหน้าที่สมุหพระราชพิธี ทูลเกล้าฯ ถวายพระเต้าเบญจคัพย์ รัชกาลที่ 1 สำหรับทรงรับน้ำอภิเษกประจำทิศโดยทักษิณาวรรต ดังนี้

ทิศบูรพา (ตะวันออก) พลเรือเอก หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษกด้วยถ้วยศิลาจารึกพุทธคาถาเป็นทิศแรกแล้ว พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ด้วยพระครอบเฟือง (สัมฤทธิ์) เสร็จแล้ว ทูลเกล้าฯ ถวายน้ำเทพมนตร์ด้วยพระมหาสังข์ประจำทิศ ที่พระหัตถ์ทุกทิศตามลำดับ หลังผู้ถวายน้ำอภิเษก

ทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล
ทิศทักษิณ (ใต้) พลโท หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล
ทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี
ทิศประจิม (ตะวันตก) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ทิศอุดร (เหนือ) นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา
ทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) นายจรัส สุวรรณเวลา ราชบัณฑิต

น้ำอภิเษกนี้คือน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพมหานครและ 76 จังหวัดซึ่งได้พลีกรรมตักน้ำไปประกอบการพระราชพิธีแล้วมาทูลเกล้าฯ ให้ทรงแผ่พระราชอาณาปกครองประชาชนในทิศทั้ง 8 ตามลำดับ

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จแปรที่ประทับทรงรับน้ำอภิเษกนั้นไปตามทิศ แล้วประทับทิศบูรพา (แทนทิศกลาง) พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษกสำรับทิศกลาง แล้วเจ้าพนักงานจะได้เชิญพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรมามอบให้พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ น้อมเกล้าฯ ถวาย ทรงรับและพระราชทานผู้เชิญรับเชิญไว้ ขณะนั้นพราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร และดุริยางค์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน