คุมตัว “เศรษฐ์-แด็ก” อีก 2 ผู้ต้องหา ทำแผนหินทุบฆ่า น้องอาร์ม เปิดปากยอมรับผิด-ขออโหสิกรรมด้วย ระบุไม่ได้ตั้งใจฆ่า ด้านพ่อ-แม่ ไม่พอใจ ฮือรุมประชาทัณฑ์!
จากกรณี แม่ร้อง น้องอาร์ม ลูกชายวัย 13 ปี ถูกฆ่าโดยกลุ่มชายที่มีอาการมึนเมา 4 คน หลังจากซ้อนรถจักรยานยนต์รุ่นพี่ออกไปหาเพื่อนที่น้ำมันหมด ขณะที่ขับรถผ่านชายกลุ่มหนึ่ง โดนหาเรื่องและตะโกนว่า “มึงมองหน้ากู มึงเก๋าหรอ” จากนั้นถูกไล่ล่า จนโดนหินทุบตกลงมาจากรถจักรยานยนต์ที่ซ้อนมาและเสียชีวิต ต่อมาวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ 2 คน คือ นายพิสิษฐ์ หรือ นนท์ เพชรเลิศ อายุ 21 ปี และ นายโอ๊ต (สงวนชื่อนามสกุลจริง) อายุ 16 ปี ก่อนจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 คน คือ นายวัชระ บุญลือ หรือ แด็ก 22 ปี และ นายกวีโชค เงาศรี หรือ เศรษฐ์ อายุ 23ปี ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
- อ่านข่าว : คุม “นนท์” ทำแผนหินทุบฆ่า น้องอาร์ม เล่านาทีเพื่อนลงมือเหี้ยม ตร.ขู่อย่าคิดสู้
- อ่านข่าว : แม่แทบขาดใจ วอนช่วยหาคนร้าย ฟัน ด.ช. 13 ดับ อยากให้วิญญาณลูกสงบ!
- อ่านข่าว : เปิดกล้องหน้ารถ นาที ด.ช.วัย 13 โดนอันธพาล หินทุบดับกลางถนน ฉุนโดนมองหน้า!
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 พ.ค. ที่สภ.บางพลี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ, พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี และเจ้าหน้าฝ่ายสืบสวน แถลงผลจับกุมตัว นายวัชระ และ นายกวีโชค ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหาร่วมกันพยามทำร้ายร่างกายผู้อื่น และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุถึงแก่ความตาย ซึ่งก่อนหน้าได้กับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 2 ราย
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่น่าสนใจ ผู้ถูกทำร้ายเป็นเยาวชน และอาจทำให้เกิดเป็นเยี่ยงอย่าง จึงต้องสั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยติดตามเร่งรัดคดีจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ครบทั้งหมด ขณะเดียวกันวันนี้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสมุทรปราการได้มารับเรื่องเพื่อเข้าช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา โดยจะมอบเงินช่วยเหลือ 30,000-100,000 บาท
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ด้าน นางศรีเพ็ญ บุญกุณะ อายุ 47 ปี แม่ของน้องอาร์ม กล่าวว่า ลูกชายไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน ขอให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนให้กับเยาวชนว่าจะทำอะไรควรคิดให้ดีก่อน แค่มองหน้ากันไม่จำเป็นต้องทำรุนแรง ควรพูดจากันดี ๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาบานปลาย
จากนั้น ตำรวจได้ควบคุมตัว นายกวีโชค และ นายวัชระ มาจำลองทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณด้านข้างสภ.บางพลี เนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุมีการจราจรหนาแน่ เกรงว่าจะเกิดเหตุชลมุน โดยเริ่มจากน้องอาร์มผู้เสียชีวิตซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์พี่ชายมาตามถนน และเกิดมองหน้ากลุ่มผู้ต้องหา จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้ขับรถตามเพื่อจะเคลียร์ แต่น้องอาร์มและพี่ชายไม่จอดรถ ก่อนที่นายกวีโชคจะใช้ไม้มาสกัดรถ แต่สุดท้ายเปลี่ยนใจใช้หินปาเข้าไปเพื่อหยุดรถแทน โดยหินพลาดไปโดนน้องอาร์มจนตกจากรถเสียชีวิต
จากการสอบสวนผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้น้องอาร์มเสียชีวิต ทั้งนี้ ภายหลังการทำแผนเสร็จสิ้นได้เกิดเหตุชุลมุน โดยมีกลุ่มเพื่อนและครอบครัวของน้องอาร์มเกิดความไม่พอใจและเข้ารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาทั้งสองราย ก่อนตำรวจจะควบคุมสถานการณ์ได้และรีบนำผู้ต้องหาฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่มีการทำแผน นายกวีโชค กล่าวว่า “ผมยอมรับผิด ผมผิดไปแล้ว ผมขอโทษจริง ๆ” ส่วน นายวัชระ กล่าวว่า “ขออโหสิกรรมให้กับคนตามผมขอโทษสังคมครับ”
