ศรีวราห์ สั่งทบทวนการข่าว พบอาวุธสงครามเข้าประเทศ ยังไม่มีรายงานป่วนประชุมสุดยอดอาเซียน ยืนยันไม่ปล่อยให้ใครวางระเบิดป่วนกรุงเทพ

วันที่ 10 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการพบอาวุธสงครามพื้นที่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ และพื้นที่ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ เป็นกระสุนเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 อาร์พีจี ปืนอาก้า และเครื่องกระสุนจำนวนมาก ว่า หลังจากลงพื้นจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 3 ดำเนินการขยายผล

ห่างไป 4 กม.พบดินส่ง PG2 จำนวน 31 แท่ง ซองกระสุนอาก้าอีก 30ซอง และในการที่พบปืนอาก้า 16 กระบอกถูกนำมาทิ้งคลอง หมู่ที่ 3 ต.สะเดา อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10มิ.ย.) เป็นผลพวงจากการสั่งการให้ขยายผลตรวจค้น ผู้ที่ครอบครองเกรงกลัวความผิดจึงนำมาทิ้ง

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบทั้งพื้นที่ศรีสะเกษที่พบกระสุนปืนอาก้า จำนวนมาก ส่วนพื้นที่จังหวัดสุรินทร์พบแม็คกาซีน ทั้ง 2 พื้นที่มีความเชื่อมโยงกัน อย่างไรก็ตามในส่วนของพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งหมด 19 ตัว เพื่อตรวจสอบรถยนต์ที่บรรทุกอาวุธสงครามนำมาทิ้ง คาดว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 2 คน

อย่างไรก็ตามในการประชุมผู้นำอาเซียนที่จะมาถึงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เพิ่มเจ้าหน้าที่เป็น 2 เท่าในการตั้งด่านตรวจ ด่านสกัด ไม่ยอมให้อาวุธเหล่านี้เข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ยิ่งการพบอาวุธสงครามมากยิ่งเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับต่างชาติ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ปกครอง ร่วมมือบูรณาการกันทำงาน

ส่วนการข่าวของเจ้าหน้าที่ไม่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีนั้น แต่ความจริงคือพบอาวุธสงครามเข้ามาในประเทศ ต้องมาทบทวนการข่าวใหม่ทั้งหมด ส่วนการพบอาวุธสงครามครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ไม่ขอตอบ

แต่เท่าที่ตรวจสอบอาวุธที่พบในครั้งนี้เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองปี 53 และปี 57 ในกรุงเทพฯหลายครั้ง และอาวุธสงครามที่พบในครั้งนี้คาดว่าจะเพิ่งลักลอบนำเข้ามาเพราะอาวุธสงคราม

กล่องบรรจุเครื่องกระสุน และกระสอบปุ๋ยยังไม่มีตระไคร้น้ำเกาะ แต่ละจุดห่างจากชายแดนประมาณ 50 กิโลเมตร ส่วนกรณีพบวัตถุระเบิดที่วัดย่านพระราม 9 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้นระบุเพียงว่าเป็นของเก่าใช้งานไม่ได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ที่นำมาวางไว้

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 ระหว่างวันที่ 20-23มิ.ย.นี้ การข่าวก่อนหน้านี้ปกติดีไม่มีสิ่งบอกเหตุ แต่เมื่อตรวจพบอาวุธดังกล่าวในช่วงนี้จึงได้สั่งการให้มีการตรวจสอบทางการข่าวใหม่ พร้อมกำชับเพิ่มกำลังและตั้งด่านตรวจจุดสกัดเข้มงวดทั้งพื้นที่ชั้นนอกและชั้นในมากขึ้น

ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้ใครนำระเบิดเข้ามาป่วนในพื้นที่กรุงเทพฯอย่างแน่นอน ทั้งนี้เชื่อว่าการตรวจพบอาวุธสงครามดังกล่าวไม่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นแต่มองว่าจะยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับต่างชาติ เนื่องจากมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้นทำให้ตรวจพบ ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีกำชับให้ดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน