เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ชั้น 4 เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์บางกะปิ บริษัท ข่าวสด จำกัด พร้อมด้วยสื่อในเครือมติชน ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), กรมการศาสนา รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆ จัดงาน “สบายใจไหว้พระดี สะสมบุญปี 60” ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการจัดงาน โดยภายในงานได้อัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จากวัดดังทั่วประเทศมาให้ประชาชนได้สักการะบูชา

เวลา 12.00 น. ที่บริเวณโซนลานธรรม ได้จัดงานเวลาเสวนาธรรมแอนด์ทอล์ค ในหัวข้อธรรมมะกับวงการบันเทิง โดยอาจารย์เชียง ปัณณวิชญ์ และดีเจเชาเชา ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม

ดีเจเชาเชา กล่าวว่า จุดเริ่มตอนของการเดินเข้ามาสายทางธรรมจากที่เคยเป็นคนเข้าแต่ผับ กินแต่เหล้า เพราะได้มารู้จักกับอาจารย์เชียง ซึ่งอาจารย์ได้เข้ามาดูฮวงจุ้ยให้บ้านหลังใหม่ ตอนแรกตนเองก็ไม่ได้ชอบบ้านหลังนี้มีความคิดลบเกี่ยวกับบ้าน อาจารย์ได้สอนว่าหากเราคิดลบมีพลังลบก็จะไม่เกิดสิ่งที่ดีกับตัวเรา จึงเริ่มคิดบวกดึงพลังบวกเข้ามา จากนั้นชีวิตที่เคยติดขัดก็ดีขึ้นๆ ต่อมาอาจารย์ก็ได้สอนให้สวดมนต์ทุกวัน เข้าวัยทำบุญ สิ่งที่ได้คือจิตใจที่สงบนิ่ง ทำให้มีกำลังทำสิ่งดีๆ จากที่เข้าผับกินแต่เหล้าตอนนี้เปลี่ยนเป็นเข้าวัดมากกว่าแล้ว และพบว่าชีวิตนั้นดีขึ้นจริงๆ ดึงอยากเชิญชวนทุกคนหันมาลองสวดมนต์ ทำจิตใจให้สงบ แล้วจะพบว่าชีวิตมีสิ่งดีๆมากขึ้นจริงๆ

อาจารย์เชียง กล่าวว่า พระพุทธองค์เคยตรัสไว้ว่า “แม้จะนั่งติดกับเรา เห็นเรา แต่ไม่เข้าใจในธรรมมะของเราก็ไม่ถือว่าเห็นเรา” ดังนั้นเราจึงควรศัทธาในพระพุทธศาสนาก่อนจะทำบุญ คุณเชาเชาได้เป็นตัวแทนที่ทำให้เห็นว่า การทำความดี คิดดี ได้ผลดีที่ดีกว่าการกินเหล้าเมายา การทำความดีนั้นไม่ว่าอย่างไรก็จะเห็นผลดี เสียสละให้ผู้อื่น ตอบแทนคุณแผนดินคือผู้ประเสริฐแล้ว

จากนั้นเมื่อเวลา 13.30 น. ได้มีธรรมเทศนา ในหัวข้อธรรมมะอารมณ์ดีเพื่อคนรุ่นใหม่ โดยพระครูสมุห์โอฬาร วชิรปัญโญ เจ้าอาวาสวัดมาตุการาม เชียงใหม่ กล่าวว่า คนเรานั้นดิ้นรนจะเห็นสวรรค์บนฟ้า ทั้งที่ที่แท้จริงแล้วเราจะมีสวรรค์บนดินนั้นง่ายนิดเดียวคือ ทำกรรมดีในบ้าน เคารพพ่อแม่ เคารพกันและกัน พ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูก เลี้ยงด้วยรักและความดี อย่าเลี้ยงลูกด้วยเงิน เมื่อเลี้ยงด้วยเงินตั้งแต่ยังเล็ก โตขึ้นพ่อแม่จะต้องเป็นทาสของลูกอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศภายในงานมีพุทธศาสนิกชนและประชาชนให้ความสนใจ เดินทางเข้าร่วมงานกราบไหว้สักการะพระพุทธรูปต่างๆ กันเป็นจำนวนมากเนื่องจากเป็นงานวันสุดท้าย โดยเฉพาะบริเวณโซนที่ 1 ลานไหว้พระสงสมบุญ ประกอบด้วย 9 พระอารามหลวง และโซนที่ 2 ลานพุทธะ ได้เปิดให้ประชาชนสักการะพระศักดิ์สิทธิ์ 4 ภาค ประกอบด้วย หลวงพ่อโสธร พระพุทธสิหิงค์ พระเชียงแสน หลวงพ่อพระใส หลวงพ่อทันใจ หลวงพ่อทองคำ หลวงพ่อพระลอย หลววพ่อปู่วัดโกรกกราก และหลวงพ่อพระศรีอารีย์ ยังมีกิจกรรมโพธิ์ทองแห่งศรัทธา ให้ร่วมเขียนใบโพธิ์อธิษฐาน แล้วนำไปแขวนไว้ที่ต้นโพธิ์ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คบริเวณทางเข้าลานบุญ เพื่อนำไปหล่อเป็นพระพุทธรูปต่อไป

น.ส.ทิพรัตน์ เทช่วย อายุ 25 ปี ประชาชนผู้เดินทางมาร่วมงาน กล่าวว่า ตนเห็นข่าวงานนี้จากทางหนังสือพิมพ์ข่าวสด เห็นว่าใกล้บ้านประกอบกับวันนี้จัดงานเป็นวันสุดท้ายแล้วจึงอยากมาสักการะบูชาพระพุทธรูปจากวัดต่างๆ ที่นำมารวมไว้ที่นี่ รู้สึกดีใจที่มีงานอย่างนี้เพราะทำให้ได้กราบไหว้ และร่วมทำบุญกับหลายๆวัด ซึ่งปกติก็จะไม่ได้เดินทางไปไหว้พระตามวัดต่างๆ บ่อย เพราะต้องทำงานและไกลบ้านมาก

ต่อมาเวลา 16.30 น. มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์สวดนพเคราะห์ เสริมบารมีปี 60 ทำพิธีโดย คณะสงฆ์วัดไตรมิตรวิทยารามมรวิหาร พร้อมเกจิคณาจารย์ พระครูภาวนาโสภณ ลพบุรี พระครูมงคลสุทธิคุณ ฉะเชิงเทรา พระครูสุวรรณมหาพุทธาภิบาล วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

โดยท่านที่สวดนพเคราะห์นั้นมีค่าพิธีการท่านละ 199 บาท จะได้รับกรวยขันครูและสายรัดข้อมือหลวงพ่อทองคำ โดยมีน.ส.ปานบัว บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บมจ.มติชน นายสุรพล พิทยาสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ บมจ.มติชน นายศรวิทย์ บุญเกื้อ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายโฆษณาและน.ส.ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์ บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์ข่าวสด เข้าร่วมพิธีด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศพิธีเจริญพระพุทธมนต์สวดนพเคราะห์ เสริมบารมีปี 59 ผู้ประชาชนสนใจเดินทางเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก โดยบางส่วนลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และบางส่วนเดินทางมาลงทะเบียนที่หน้างาน

นางรชตะ พิมพา ประชาชนผู้เดินทางมาร่วมงานกล่าวว่า เพิ่งเดินทางมาร่วมงานเป็นครั้งแรก ดีใจมากที่ได้มางานในครั้งนี้ เพราะว่าได้ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์สวดนพเคราะห์ เสริมบารมีปี 59 ด้วย อยากจะให้มีการจัดงานแบบนี้ทุกๆปี เพราะสะดวกต่อการเดินทางมา และเป็นงานที่ดีมากได้ทำบุญกับหลายๆ วัดที่อยู่ไกลบ้านและไม่มีโอกาสไปทำบ่อย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน