ฟันวิศวกรคุมงาน-คนขับ เครนถล่มใส่ร.ร.อัสสัมชัญฯ เจ้าตัวยังล่องหน วสท.คาดคนขับเครนประมาท ทำให้เกิดช็อกโหลด ติดขัดกลางคัน เครนหงายถล่ม แจ้งเอาผิดบริษัทรับเหมา 2 ข้อหาหนัก

จากเหตุเครนก่อสร้างไซต์งานต่อเติมโรงแรมริเวอร์ การ์เด้น ถ.เจริญกรุง เขตบางรัก กทม. ตกลงมาบริเวณหลังคาสนามบาสเก็ตบอล โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ ที่อยู่ติดกัน เป็นเหตุให้แผ่นโครงเหล็กหลังคา และอุปกรณ์ก่อสร้าง ถล่มลงมายังชั้นล่าง เหตุเกิดเมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 19 มิ.ย. โดยขณะเกิดเหตุมีนักเรียนกำลังนั่งรวมแถวอยู่ในสนามบาสเกตบอลดังกล่าว เป็นเหตุให้มีนักเรียนบาดเจ็บ 10 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน นำส่งโรงพยาบาลเลิดสิน และโรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

เครนถล่ม / ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. รศ.เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.) พร้อม นายวุฒินันท์ ปัทมวิสุทธิ์ ประธานคณะอนุกรรมการวิศวกรรมยกหิ้วและปั้นจั่นไทย และนายหฤษฎ์ ศรีนุกูล คณะอนุกรรมการยกหิ้วฯ ร่วมเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว

รศ.เอนก ศิริพานิชกร กล่าวว่า เบื้องต้นทางกรุงเทพมหานครสั่งปิดพื้นที่ดังกล่าวแล้ว และทางเราพูดคุยสรุปแนวทางดำเนินการคือ 1.รื้อเครนทั้งหมดออกจากพื้นที่เพื่อให้เกิดความปลอดภัย พร้อมทั้งเคลียร์พื้นที่โดยรอบเนื่องจากวัสดุต่างๆ ยังมีโอกาสร่วงหล่นลงมาอีก เพราะพรุ่งนี้ (21 มิ.ย.) โรงเรียนจะเปิดเรียนแล้ว 2.แก้ไขซ่อมแซมโรงเรียน

นายหฤษฎ์ ศรีนุกูล กล่าวว่า การตรวจสอบเครนดังกล่าว พบมีลักษณะไม่ใช่เครนรื้อถอน แต่เป็นเครนต่อเติม มีแขนยกของขึ้นลง ซึ่งต้องมีลิมิตน้ำหนักกำหนด หรือระบบหยุดการทำงานฉุกเฉิน โดยจะต้องตรวจสอบดูว่าระบบทำงานหรือไม่

แต่จากการตรวจสภาพเบื้องต้นพบว่า เครนดังกล่าวปกติดี กรณีนี้อาจเกิดจากคนขับเครนประมาท ทำให้เกิดช็อกโหลด หรือระบบติดขัดกลางคัน จนทำให้เครนหงายหลังได้

ด้าน นายสุริยา แจ่มจำรัส อาจารย์วิชาพละศึกษา และตัวแทนผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ เปิดเผยว่า วันนี้ประชุมคณะกรรมการโรงเรียนและผู้ปกครองนักเรียน หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น โดยผู้ปกครองอยากให้โรงเรียนมีมาตรการควบคุมความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่วนกำหนดปิดการสอนนั้นยังไม่มั่นใจว่าในวันที่ 21 มิ.ย. จะสามารถเปิดการเรียนการสอนได้หรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีการซ่อมแซมในพื้นที่จุดเกิดเหตุ

ขณะที่เจ้าของโรงแรม หรือตัวแทนบริษัท และผู้รับเหมาก่อสร้างนั้น ยังไม่ติดต่อประสานมาพูดคุยกับทางโรงเรียน ขณะที่ทางอาจารย์ได้ติดตามอาการของ ด.ญ.พรทิพย์ สิริรุ่งตระกูล อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีเลือดออกทางสมองอยู่บ้าง แต่อาการโดยรวมถือว่าปลอดภัย ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อีกประมาณ 2-3 วัน เพื่อติดตามผล

นายสุริยา กล่าวต่อว่า ขณะเกิดเหตุตนพานักเรียนชั้น ม.3/4 มาเรียนวิชาพละศึกษาบริเวณลานสนามบาสเก็ตบอล ซึ่งขณะที่กำลังสรุปผลการเรียน และจะเลิกคลาสสอนนั้น มีเสียงดังสนั่นคล้ายกับของหรือวัตถุตกลงมา แต่ก็ไม่ได้สนใจ เนื่องจากเคยเกิดเสียงลักษณะนี้มาหลายครั้งจนเกิดความเคยชิน แต่จู่ๆ ก็มีแผ่นเหล็กตกลงมาที่พื้นสนาม จึงรีบตะโกนบอกนักเรียนให้รีบวิ่งเข้าไปใต้ตัวอาคารให้ไวที่สุด

แต่เมื่อสิ้นเสียงและหันกลับมามอง พบว่ามีเด็กนักเรียน 1 คน ถูกแผ่นเหล็กทับ จึงรีบอุ้มเด็กส่งโรงพยาบาลในทันที จนถึงขณะนี้ตนยอมรับว่ายังไม่อยากกลับมาสอนในสนามบาสแห่งนี้ เพราะยังหวาดผวาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นพ.สมพงษ์ ตันจริยาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ เปิดเผยว่า เด็กนักเรียนหญิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น จากการตรวจพบกะโหลกศีรษะแตก ร้าวมาถึงด้านหลัง และมีรอยร้าวมาถึงโพรงจมูกบริเวณไซนัส จากการเอ็กซเรย์สแกนสมอง 3 รอบ ไม่พบว่ามีเลือดออกแล้ว ถือว่าพ้นขีดอันตราย แต่ยังต้องอยู่โรงพยาบาลอีกประมาณ 1 สัปดาห์ และเฝ้าระวังเรื่องการติดเชื้อจากภายนอก ซึ่งตนกังวลตรงนี้

อย่างไรก็ตาม แพทย์ประเมินแล้วเชื่อว่าผู้ป่วยจะกลับมาเป็นปกติ ขณะนี้รู้สึกตัวพูดจาโต้ตอบได้ สภาพจิตใจถือว่าดี ไม่มีอาการขวัญผวา โดยวันนี้จะส่งจิตแพทย์เข้าไปประเมินสภาพจิตใจผู้ป่วยอีกครั้ง

ส่วนเรื่องคดีความนั้น พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางรัก กล่าวว่า ขณะนี้แจ้งข้อหา “ร่วมกันประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส” ต่อนายภัทรเกียรติ สนธิเดชกุล อายุ 26 ปี วิศวกรคุมงาน และชาวต่างด้าวที่เป็นคนขับรถเครน ซึ่งทราบว่าหลบหนีตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น ขณะที่ 6 บริษัทที่เกี่ยวข้องได้รับการประสานติดต่อเข้ามาให้ถ้อยคำ 1 แห่ง แต่ยังไม่ปรากฏตัว หากไม่มาในวันพรุ่งนี้ ก็จะทยอยออกหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ขณะที่สำนักงานเขตบางรัก แจ้งความต่อบริษัทรับเหมา ฐาน “ต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพ.ร.บ.อาคาร เนื่องจากขออนุญาตต่อเติมโดยไม่ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างอาคาร แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบกลับพบว่า มีลักษณะเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง รวมถึงข้อหา “ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน” เพราะสำนักงานเขตบางรักเคยมีคำสั่งให้หยุดการก่อสร้างตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ทางโรงแรมยังลักลอบก่อสร้างเรื่อยมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน