สรุปคดี! มหาสงคราม วินเถื่อน นักรบเป็นร้อย วางแผนมาดี-สั่งซื้ออาวุธจากจีน

วินเถื่อน / เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน ,พล.ตต.นิตินันท์ เพชรบรม พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง รองผบก.น.5

พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางนา แถลงสรุปคดีวินรถจักรยานยนต์ทะเลาะวิวาท จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เหตุเกิดย่านอุดมสุข พื้นที่สน.บางนา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.62 ระหว่างเวลาประมาณ 09.30 น. ถึงเวลา 11.00 น.

หลังเกิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.5 ชุดสืบสวน กก.3 บก.สส.บช.น. และสน.บางนา ได้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง

พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า คดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพวงจรปิดและคลิปวีดีโอรวม 5 เหตุการณ์พบว่า ผู้ร่วมก่อเหตุมีทั้งหมด 127 คน แบ่งเป็นกลุ่มวินรถจักรยานยนต์อุดมสุข 1 มีนายประมุข วิเชียรดิลกกุล เป็นหัวหน้าวิน รวม 84 คน พิสูจน์ตัวตนผู้ก่อเหตุแล้ว 37 คน ส่วนกลุ่มวินอุดมสุข 2 ที่มีนายทนง เกิดแก้ว เป็นหัวหน้าวิน มี 43 คน พิสูจน์ตัวตนผู้ก่อเหตุแล้ว 21 คน

โดยฝ่ายสอบสวนได้ทยอยออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุไปแล้วประมาณ 19 หมายจับ จับกุมได้แล้วไม่ต่ำกว่า 19 คน ในจำนวนนี้มีตัวการสำคัญครบทั้งหมด ส่วนของกลางที่ตรวจยึด ประกอบด้วย อาวุธปืน ขนาด .45 หมายเลขทะเบียน พช.4/4011 ไม่ปรากฏหมายเลขประจำปืน จำนวน 1 กระบอก จากนายเจริญ หรือต่อ เจริญผล ฝ่ายนายทนง อาวุธมีด 1 เล่ม จากฝ่ายนายทนง

กระบอกยาง ยาวประมาณ 47 นิ้ว จำนวน 31 อัน จากฝ่ายนายประมุข และอาวุธปืนขนาด 9 มม. จากบ้านของนายประมุข

ส่วนสาเหตุทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทนั้น พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า เกิดจากวินจักรยานยนต์ซึ่งมี นายทนง เกิดแก้ว เป็นหัวหน้าวิน ตั้งอยู่บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ปากซอยอุดมสุข เป็นวินที่ไม่ได้รับอนุญาตถูกต้องส่วนวินรถจักรยานยนต์ ซอยอุดมสุข 1

ซึ่งมีนายประมุข วิเชียรดิลกกุล เป็นหัวหน้าวิน ได้รับอนุญาตถูกต้องซึ่งผู้ที่จะเข้ามาขับวินของนายประมุขจะต้องเสียค่าเข้าร่วมวิ่งเป็นเงิน 3,500 บาท และค่าเสื้อวินเดือนละ 3,000 บาท

ส่วนวิน ของนายทนงไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดซึ่งวินของนายทนงจะมีผู้โดยสารมากกว่าเนื่องจากประชาชนที่ใช้บริการ ถ้าลงมาจากสถานีรถไฟฟ้าอุดมสุขเดินมาตามถนนอุดมสุขจะพบกับวิน ของนายทนงก่อน เป็นเหตุให้นายประมุขไม่พอใจและไม่ต้องการให้วินของนายทนงมาวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารบริเวณดังกล่าว

โดยก่อนเกิดเหตุนายประมุขกับพวกได้วางแผนในการก่อเหตุโดยได้สั่งซื้อกระบอกยาง จากประเทศจีนโดยสั่งผ่านทางอินเตอร์เน็ต มาก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 เดือน และนัดหมายกลุ่มจักรยานยนต์ในวินของตนเพื่อรวมตัวกันไปก่อกวนวินของนายทนง เพื่อไม่ให้สามารถวิ่ง รับ-ส่งผู้โดยสารได้อีกต่อไปจนเป็นเหตุให้เกิดทะเลาะวิวาทกันส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ขณะนี้ ฝ่ายสืบสวนยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ว่า เงินที่มีการเรียกเก็บเกี่ยวข้องกับการนำไปจ่ายให้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลหรือไม่ ส่วนอาวุธปืนของกลางที่นำมาแถลง 2 กระบอกเป็นปืนที่ตรวจยึดได้จากการเข้าตรวจค้นบ้านของนายประมุข และนายเจริญ ต้องสงสัยว่าถูกนำไปใช้ก่อเหตุด้วยหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

“ส่วนรถที่ใช้ในการก่อเหตุฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างลงพื้นที่ติดตามเพื่ออายัดรถ คาดว่าจะสามารถติดตามพยานหลักฐานมาใช้ดำเนินคดีผู้ก่อเหตุดังกล่าวต่อไป” ผบช.น. กล่าว

ขณะที่มีรายงานระบุด้วยว่า สำหรับผู้เสียชีวิตในคดีนี้ มีจำนวน 1 ราย คือ นายวีรวัฒน์ หรือกานต์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี อยู่ฝ่ายนายทนง ถูกยิงที่ศีรษะ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย แบ่งเป็น ฝ่ายนายประมุข 2 ราย 1.นายประมุข หัวหน้าวินรถจักรยานยนต์อุดมสุข 1 ถูกทำร้ายตามร่างกาย

2.นายวัชรินทร์ หรือกอล์ฟ งาเหลา อายุ 33 ปี ถูกยิงที่ศีรษะ จากการสอบสวนทราบว่าขณะเกิดเหตุ มีนายเจมส์ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นลูกน้องในกลุ่มนายประมุข ได้ใช้อาวุธปืนยิง แต่พลาดไปถูกนายวัชรินทร์ ซึ่งเป็นพวกเดียวกันได้รับบาดเจ็บ

ส่วนฝ่ายนายทะนงมี 3 ราย 1.นายประเสริฐ หรือพงษ์ จำเริญพงษ์รัศมี อายุ 28 ปี ถูกทำร้ายตามร่างกาย 2.นายกฤต ศรีบุญมี อายุ 34 ปี ถูกฟันที่ศีรษะ 3.นายวุฒิชัย หรือเบนซ์ เทศเขียว อายุ 27 ปี ถูกยิงบริเวณใบหู ส่วนของ 19 หมายจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุนั้น แบ่งเป็นฐานความผิด

1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมืองฯ,มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปฯ,ซ่องโจร จำนวน 7 ราย จับกุมแล้ว 7 ราย

2. ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมืองฯ,มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปฯ , ซ่องโจร”ฝจำนวน 7 ราย จับกุมแล้ว 6 ราย

3. ซ่องโจร,ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมืองฯ,มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปฯ จำนวน 5 ราย จับกุมแล้ว 5 ราย

ได้ดำเนินการจับกุมนายเจริญ หรือต่อ เจริญผล ในความผิดฐาน มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ได้ขอหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายจำนวน 6 หลัง ผลการตรวจค้นไม่พบวัตถุพยานหรือสิ่งผิดกฎหมาย หลังจากนี้ จะดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด

โดยขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.บางนา อยู่ระหว่างเร่งตรวจพิสูจน์บุคคลทั้ง 2 ฝ่ายตามภาพคลิปวิดีโอในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพิสูจน์บุคคลแล้ว 58 คน จากนั้น จะรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าจะสามารถดำเนินการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องอีกประมาณ 14 ราย รวมทั้งหมด 43 คน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน