สองพี่น้องบุกทวงกริชโบราณจากอริถึงบ้าน แต่ไม่ได้ ก่อนชกต่อยกันอุตลุด พ่อขับ จยย.ตามลูกไป เจอลูกถูกทำร้าย ยิงใส่อริลูกเจ็บ 1 คน แต่เหยื่อกระสุนใจแข็งสู้ ชักมีดกระโดดแทงสวนพ่อดับคาที่ ก่อนตัวเองไปตายที่ รพ. ขณะทั้ง 2 ฝ่ายยังมีผู้บาดเจ็บรวม 3 คน

เวลา 22.30 น. วันที่ 29 มี.ค. ร.ต.อ.สิปปกร แก้วกาญจน์ รองสว.(สอบสวน) สภ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายกันด้วยอาวุธปืนและมีดที่หน้าบ้าน ม.6 ต.เขาพระ อ.พิปูน มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ศพ ไปเสียชีวิตที่ รพ.พิปูน 1 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 3 ราย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมคิด ดำเกลี้ยง ผกก.สภ.พิปูน ชุดสอบสวน แพทย์ มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์รีบรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงหน้าบ้านดังกล่าว พบศพนายศักดิ์ชัย ริยาพันธ์ อายุ 52 ปี อยู่ ม.6 ต.เขาพระ อ.พิปูน นอนหงายเสียชีวิตอยู่ในสภาพถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้าหน้าอก 3 แผล เลือดนองพื้น ใกล้ศพพบอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัดตกอยู่ ซึ่งมีรอยยิงไปแล้ว 1 นัด ส่วนเหยื่อกระสุนปืนของนายศักดิ์ชัย คือ นายหัสคุณ เฮ่า อายุ 21 ปี อยู่ ม.7 ต.เขาพระ อ.พิปูน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองที่หน้าอก 1 นัด เป็นรูโบ๋

นอกจากนั้นทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีก 3 คน คือ นายกฤษณะ อายุ 26 ปี ลูกของนายศักดิ์ชัย ถูกทำร้ายมีบาดแผลที่ศีรษะ , นางอาภรณ์ เลิศไกร อายุ 53 ปี เพื่อนบ้าน ถูกลูกหลงกระสุนเจาะไหล่ซ้าย 1 แผล และนายจตุรณ เฮ่า อายุ 26 ปี อยู่ ม.6 ต.เขาพระ อ.พิปูน ฝ่ายตรงข้าม ถูกยิงที่นิ้วมือและแขนขวา แพทย์ต้องแยกรักษาตัว เนื่องจากต่างฝ่ายต่างเป็นคู่อริกัน และอาการปลอดภัยทั้งหมดแล้ว

พ.ต.อ.สมคิด ดำเกลียง ผกก.สภ.พิปูน กล่าวว่า คดีนี้ทางชุดสอบสวนได้สอบปากคำพยานในเหตุการณ์ทราบว่า ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่หมู่บ้านเดียวกัน แต่เป็นคู่อริที่เคยทะเลาะวิวาทกันมาก่อน โดยก่อนเกิดเหตุนายกฤษณะ กับน้องชายชื่อนายจักรกฤษณ์ อายุ 23 ปี ไปที่บ้านเกิดเหตุเพื่อทวงคืนมีดกริชจากนายหัสคุณ ผู้ตายกับนายจตุรณ ผู้บาดเจ็บ 2 พี่น้อง แต่ปรากฏว่าไม่ได้คืน จึงมีการชกต่อยกันอย่างอุตลุดจนชุลมุนวุ่นวาย

จากนั้นนายศักดิ์ ผู้ตาย พ่อของนายกฤษณะ และนายจักรกฤษณ์ ขับรถ จยย.ควงอาวุธปืนลูกซองตามไปที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นลูกถูกทำร้ายจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่นายหัสคุณ จำนวน 1 นัดเข้าหน้าอก แต่นายหัสคุณ ยังแข็งใจใช้อาวุธมีดวิ่งเข้าจ้วงแทงนายศักดิ์ชัย เต็มแรง 3 ครั้งซ้อน จนล้มฟุบตายคาที่ ก่อนนายหัสคุณ จะไปสิ้นใจตายที่ รพ.ในเวลาต่อมา ส่วนนางอาภรณ์ เห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปห้าม แต่ถูกลูกหลงโดนยิงเข้าแขนจนบาดเจ็บในที่สุด

“ส่วนสาเหตุมาจากทั้ง 2 ฝ่ายเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน แต่เพราะความเลือดร้อน เมื่อมีเรื่องบาดหมางกันกลายเป็นความรุนแรง ไม่ยอมกันแม้จะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน จึงเกิดเหตุสลดจนตายไปข้างหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์นี้มีพยานหลายคน ตำรวจได้เรียกมาให้ปากคำและเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก และคดีไม่ซับซ้อนอะไร มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายได้แน่นอน” พ.ต.อ.สมคิดฯ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน