ญาตินำศพสาวคุรุสภาที่ถูกหนุ่มหึงโหดใช้ปืนยิงเสียชีวิตที่สนามหญ้าคุรุสภา กลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดจ.บุรีรัมย์แล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว แม่-พี่ชายร่ำไห้เผยรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลั่นไม่ต้องมากราบขอขมาศพ อยากให้ประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกัน
กรณีนายจำลอง พุ่มมาลัย อายุ 49 ปี พนักงานขับรถ สกสค. บุกยิงน.ส.วาสนา บุระคร หรืออ้อ อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่ระดับ 4 ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทะเบียนการเงินการคลัง สกสค. เสียชีวิตดับสยองคาสนามหน้าสำนักงานสกสค. กระทรวงศึกษาธิการ ญาติเผยทั้งคู่เคยคบหากันระยะหนึ่ง ช่วงหลังฝ่ายหญิงจับได้ว่ามีครอบครัวแล้วจึงตีตัวออกห่าง ง้อขอคืนดีเท่าไรก็ไม่สำเร็จ จึงลงมือฆ่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจออกหมายจับคนร้ายแล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ญาติของน.ส.วาสนา บุระคร นำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด เลขที่ 104 ม.5 บ้านขามน้อย ต.เย้ยปราสาท อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ แล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางสมหวัง บุระคร อายุ 66 ปี ผู้เป็นแม่ ถึงกลับเป็นลมล้มพับทันทีที่ศพของลูกสาวกลับมาถึง เพราะน.ส.วาสนา เป็นลูกคนสุดท้องและลูกสาวคนเดียวของครอบครัวทั้งเป็นคนที่คอยดูแลพ่อกับแม่ เพราะที่เหลืออีก 3 คนเป็นผู้ชายและแต่งงานมีครอบครัวทั้งหมดแล้ว โดยครอบครัวมีกำหนดจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านถึงวันศุกร์ที่ 31 มี.ค. และจะฌาปนกิจศพในวันเสาร์ที่ 1 มี.ค. ที่วัดบ้านขามน้อย ต.เย้ยปราสาท
นางสมหวัง กล่าวว่า น.ส.วาสนาเป็นลูกสาวคนสุดท้อง จากลูกทั้งหมด 4 คน และเป็นคนคอยดูแลพ่อกับแม่ เพราะพี่ชายทั้ง 3 มีครอบครัวและทำงานอยู่ต่างจังหวัด ที่ผ่านมาน.ส.วาสนาจะกลับมาบ้านเพื่อดูแลพ่อกับแม่ทุก 2 สัปดาห์ หรือช่วงที่ว่างงาน ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นลูกสาวไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง เพราะอาจจะกลัวแม่คิดมาก เพราะตนเองก็อายุมากแล้วประกอบเคยผ่าตัดเนื้องอกในสมอง ทำให้สุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังทำใจไม่ได้ที่ต้องมาสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รัก และอยากให้ผู้ก่อเหตุมามอบตัวเพื่อชดใช้ความผิดกับสิ่งที่ตนเองกระทำ
ด้านนายนครินทร์ บุระคร อายุ 38 ปี พี่ชายของน.ส.วาสนา เล่าทั้งน้ำตาว่า ปัจจุบันรับราชการอยู่สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งที่ จ.อำนาจเจริญ ตนสนิทกับน้องสาวมาก มีเรื่องอะไรน้องก็จะโทรศัพท์ไปปรึกษาหรือเล่าให้ฟังตลอด ซึ่งที่ผ่านมาน้องสาวก็เคยเล่าให้ฟังว่าถูกผู้ก่อเหตุข่มขู่จะทำร้าย และเอาชีวิตหลายครั้ง เพราะน้องสาวพยายามจะตีตัวออกห่าง หลังทราบว่าชายคนดังกล่าวมีภรรยาแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าน้องสาวจะถูกยิงเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้
ซึ่งหากผู้ก่อเหตุมามอบตัวหรือเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ ก็ไม่ต้องการให้มากราบขอขมาศพ เพราะครอบครัวไม่มีใครยอมรับได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด หากเป็นไปได้ก็อยากให้ประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกัน ขอให้ได้รับกรรมกับสิ่งที่กระทำ