เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 ก.ย. ที่กองปราบปราม น.ส.รวิฌา ทังสุบุตร หรือริชา อายุ 32 ปี พิธีกรรายการ “ลุกแล้วรวย” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.) นายสมบูรณ์ มียพัฒน์ อายุ 56 ปี เจ้าของร้านข้าวผัดปูเมืองทอง สาขาแจ้งวัฒนะ 14 สุขาภิบาล 5 และไมอามี่ บางปู และนายมณเฑียร เงินหลั่งทวี อายุ 56 ปี เจ้าของร้านหมูกรอบนายไซ ประชาชื่น กทม. เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณัฐพล รัตนมงคลศักดิ์ สว.กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างชื่อของน.ส.รวิฌา ไปหลอกลวงผู้เสียหายที่เคยมาออกรายการทีวีดังกล่าว โดยไปขอรับเงินบริจาค อ้างว่าจะไปมอบให้ที่บ้านเด็กราชวิถีและไปแจกอาหาร โดยจะมีรายการโทรทัศน์อื่นร่วมกิจกรรมด้วย

s__8118290

น.ส.รวิฌา กล่าวว่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่าถูกแอบอ้างชื่อไปใช้หลอกลวงผู้อื่น จนมาทราบจากนายสมบูรณ์ มีผู้มาเรียกรับเงินบริจาคจึงรีบตรวจสอบทันที โดยทราบพฤติการณ์ของคนร้ายว่าจะใช้วิธีเช่าโทรศัพท์มือถือจากร้านค้าที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อนำไปใช้โทรหาเหยื่อ ส่วนบัญชีธนาคารที่ใช้รับโอนเงิน พบว่ามี 2 บัญชี แต่เป็นคนละชื่อกัน เบื้องต้นเพิ่งจะพบมูลค่าความเสียหายยังอยู่ที่หมื่นกว่าบาท โดยเชื่อว่ายังมีผู้เสียอีกหลายรายที่โดนหลอกไปด้วย

201609301443214-20090709164940

“คนร้ายใช้วิธีการไปขอยืมเช่าโทรศัพท์จากร้านค้า โทรมาหาผู้เสียหาย พอลองโทรกลับไปปรากฎเป็นร้านขายของชำที่กาญจนบุรี ซึ่งป้าเจ้าของร้านเป็นพยานได้ บอกมาเป็นแก๊ง 4 คน ผู้หญิง 3 ผู้ชาย 1 สามารถกำหนดรูปพรรณสัณฐานคนร้ายได้แล้ว ให้เจ้าหน้าที่กองปราบปรามสืบต่อ เป็นครั้งแรกในชีวิตไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะโดนแอบอ้างชื่อ ไม่อยากให้มาแอบอ้างแบบนี้ ขอฝากไว้อย่าทำแบบนี้อีกเลย มันทำให้คนอื่นเดือดร้อน หลอกโดยใช้ความสงสารของคนอื่น สำหรับรายการที่ตนดำเนินรายการอยู่ รายการนี้ไม่มีเลขที่บัญชีของรายการเลย จะใช้เลขที่บัญชีของคนที่เดือดร้อนจริงๆ ใครที่แอบอ้างรายการ แอบอ้างตน บอกไว้ตรงนี้ไม่เคยใช้เบอร์ส่วนตัว ไม่เคยใช้เบอร์รายการ และเลขที่บัญชีรายการด้วย ถ้าใครโดนหลอกแบบนี้อย่าหลงเชื่อ สามารถอินบ็อกซ์มาถามรายการได้ค่ะ” น.ส.รวิฌา กล่าว

201609301443213-20090709164940

ด้าน นายสมบูรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าติดต่อมาจากพิธีกรรายการลุกแล้วรวย อ้างว่าขอให้หาคนมาช่วยงานการกุศล รวมทั้งช่วยซื้อกระเป๋าเด็ก ปากกา รองเท้า ฯลฯ โดยให้ช่วยเป็นการโอนเงินจำนวน 10,000 บาทมาแทน แล้วจะให้ทีมงานไปหาซื้อของให้เอง ตนเห็นว่าพอจะช่วยเหลือได้และจะได้ร่วมทำบุญไปด้วย จึงโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปให้

นายสมบูรณ์ เปิดเผยด้วยว่า หลังโอนเงินไปให้แล้ว ในช่วงเย็นก็มีโทรศัพท์ติดต่อมาหา ขอให้ตนโอนเงินเพิ่มให้อีก 3,000 บาท โดยมีการแอบอ้างเบื้องสูงด้วยทำให้ตนรู้สึกเริ่มเอะใจ ก่อนจะรีบตรวจสอบข้อเท็จจริง จนทำให้ทราบว่าเป็นการหลอกลวง

ด้าน นายมณเฑียร กล่าวว่า ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ เพื่อขอรับเงินบริจาค ครั้งแรกก็โอนไปให้ 1,400 บาท แต่แล้วกลับมีการอ้างถึงบุคคลชั้นสูง เกี่ยวกับการได้รับเข็มที่ระลึก ซึ่งจะต้องบริจาคเงินเพิ่มเติม ครั้งแรกก็ปฏิเสธไป แต่คนร้ายอ้างว่าส่วนใหญ่คนที่บริจาคก็จะขอรับเข็มกันทั้งนั้น ทำให้หลงเชื่อยอมโอนเงินไปให้อีก 1,100 บาท มาทราบว่าถูกหลอกดังกล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่อง พร้อมสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้ตรวจสอบหาตัวคนร้ายต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน