เมื่อวันที่ 30 ก.ย. นางเบญทราย กียปัจจ์ ผู้ช่วย เลขานุการผู้ว่าฯกทม.ในฐานะรองโฆษกกทม. กล่าวว่า ภายหลังที่ตนได้ลงพื้นที่ดูการเปิดทดลองใช้งานอุโมงค์ทางลอดมไหสวรรย์ ตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันนี้ พบว่าก่อนเวลา 05.00 น. มีประชาชนขับรถมาต่อคิวเพื่อเตรียมลงใช้อุโมงค์ โดยรถยนต์คันแรกที่เข้ามาใช้งานเป็นรถแท็กซี่ ซึ่งได้ไปถามความรู้สึกกับคนขับแท็กซี่ว่า เป็นอย่างไร ซึ่งคนขับก็บอกว่า รู้สึกดีใจที่เปิดใช้งานหลังจากรอมานาน 5-6 ปีแล้ว และรู้สึกดีใจที่พื้นที่ฝั่งธนบุรีจะมีอุโมงค์รถยนต์ใช้งานเสียที ขณะเดียวกันผู้ที่ขับรถลงอุโมงค์หลายคัน ก็พร้อมใจบีบแตรรถยนต์ส่งเสียงเป็นระยะ ซึ่งเข้าใจว่าทุกคนรู้สึกยินดีในการเปิดใช้งานอุโมงค์แห่งนี้ แต่เมื่อเช้ามืดยังมีบางคันลังเลไม่กล้าลงอุโมงค์ บางคันขับถอยออกมา แต่เจ้าหน้าที่เทศกิจก็ให้สัญญาณว่าขับลงอุโมงค์ไปได้ เพราะเปิดใช้บริการแล้ว

201609301413112-20110627141736

นางเบญทราย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สาเหตุที่กทม.เปิดใช้งานอุโมงค์ทางลอดมไหสวรรย์ ในช่วงที่อุโมงค์ยังเสร็จไม่เรียบร้อยนั้น เพราะกทม.เข้าใจว่าทุกคนรอมานาน สภาพการจราจรในจุดนี้ติดขัดมาหลายปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาหารือกับกทม.ว่าจะดำเนินการเบื้องต้นอย่างไร เพื่อบรรเทาการจราจรในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้อุโมงค์ทางลอดมไหสวรรย์ถือว่ามีความคืบหน้าแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ ยังต้องเพิ่มเติมในสาธารณูปโภคและเก็บรายละเอียดภายใน แต่โครงสร้างส่วนใหญ่มีความมั่นคงแข็งแรงแล้ว พร้อมให้รถวิ่งได้ โดยการก่อสร้างทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดก่อนสิ้นปี 2559 แน่นอน อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกกทม.ยังไม่อนุญาตให้รถบรรทุกลงอุโมงค์ทางลอดมไหสวรรย์ได้ เพราะอยากให้รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ได้ใช้งานก่อนเท่านั้น

“ที่ผ่านมาในช่วงก่อสร้าง กทม.รับรู้ความทุกข์ของประชาชนมานาน ได้รับข้อร้องเรียนผ่านเฟซบุ๊คของผู้ว่าฯกทม.ว่าประชาชนรู้สึกทุกข์ใจหนักหนาสาหัส ในช่วงการก่อสร้างอุโมงค์ แต่กทม.ก็เจ็บปวดใจ เพราะสาเหตุความล่าช้าก็มาจากหลายปัจจัย ซึ่งกทม.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และยอมรับข้อผิดพลาดเพียงผู้เดียว แต่จากนี้จะขอคืนความสุข จึงได้เปิดใช้การใช้งาน เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ให้ประชาชน เป็นของขวัญชิ้นสำคัญที่จะมอบให้ในช่วงปีใหม่นี้” นางเบญทราย กล่าว

สำหรับโครงการทางลอดแยกมไหสวรรย์ ของสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการจัดระบบการจราจร (คจร.) มีมติให้กทม.ดำเนินการโครงการก่อสร้างทางลอดถนนตากสินกับถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 23 ก.พ.47

ต่อมากทม.ได้ว่าจ้างบริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ใช้งบประมาณ 969,142,655 บาท โดยเริ่มต้นสัญญาเมื่อวันที่ 11 ต.ค.2554 ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน สิ้นสุดสัญญาวันที่ 9 ก.ย.56 หลังจากเริ่มสัญญาได้ไม่นานงานค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมแต่มีอุปสรรคในการเดินทาง และการขนส่งวัสดุอุปกรณ์ อีกทั้งติดปัญหาการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคทั้งใต้ดินและบนดิน ได้แก่ ท่อประปาสายสื่อสาร สายไฟฟ้าเสาไฟฟ้า

ดังนั้น กทม.จึงพิจารณาขยายสัญญา โดยบริษัทฯได้เริ่มก่อสร้าง ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.2555 ระยะเวลาการก่อสร้าง 180 วัน แต่พบว่า ผลการดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนถึง 60.74 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากช่วงปีแรกติดขัดอุปสรรคเรื่องการย้ายสาธารณูปโภคต่างๆ อาทิ การประปา การไฟฟ้า และสายท่อโทรศัพท์

ทำให้กทม. พิจารณาขยายสัญญาให้เป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 26 พ.ค.57 ระยะเวลาการก่อสร้าง 150 วัน ระหว่างนั้นคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จึงได้พิจารณาขยายสัญญาให้เป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 1 ส.ค.57 ระยะเวลาการก่อสร้าง 288 วัน ระหว่างนั้นติดขัดอุปสรรคเรื่องการย้ายสาธารณูปโภคต่างๆ อาทิ การประปา การไฟฟ้า จึงได้พิจารณาขยายสัญญาให้เป็นครั้งที่ 4 ในวันที่ 7 ส.ค.58 ระยะเวลาการก่อสร้าง 256 วัน ระหว่างนั้นติดขัดอุปสรรคเรื่องการย้ายสายโทรศัพท์ จึงได้พิจารณาขยายสัญญาให้เป็นครั้งที่ 5 ในวันที่ 11 เม.ย.59 ระยะเวลาการก่อสร้าง 276 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาในเดือนพ.ย.59 รวมแล้ว กทม.ได้พิจารณาขยายสัญญาในการก่อสร้างให้แก่ผู้รับเหมา จำนวน 5 ครั้ง

ทั้งนี้ อุโมงค์ลอดทางแยกมไหสวรรย์ เป็นทางลอดที่มีความยาวที่สุดในกรุงเทพฯ สำหรับรถยนต์ขนาด 4 ช่องจราจร 2 ทิศทาง ตามแนวถนนตากสิน โดยโครงสร้างทางลอดมีความกว้าง 17 เมตร ความยาวทางลอดประมาณ 887 เมตร รวมความยาวทั้งโครงการ 1,515 เมตร ก่อสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการจราจรบริเวณแยกมไหสวรรย์ ลดจุดตัดทางแยกโดยรอบ และเชื่อมการเดินทางในแนวถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินกับถนนสุขสวัสดิ์

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน