จับแล้ว 4 หื่น ขืนใจด.ญ.14 ช็อกพ่อบุญธรรมร่วมข่มขืนด้วย เผยผู้ต้องหายังปฏิเสธทนายเตรียมยื่นประกัน พ่อเหยื่อรับไม่ได้ จี้ประหาร

กรณีครอบครัว ด.ญ.วัย 14 ปี เข้าแจ้งความที่ บก.ป.และ สน.ประเวศ หลังจากที่ด.ญ.ถูกผู้รับเหมาและคนงานรวม 4 คน ข่มขืนกระทำชำเราที่แคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลายครั้งเป็นเวลานานกว่าครึ่งปี ต่อมาด.ญ.หนีมาหาญาติ ซึ่งทำงานที่แคมป์คนงานย่านประเวศ ก่อนถูกหัวหน้าคนงานข่มขืนพร้อมกับข่มขู่ ต่อมาเจ้าตำรวจสน.ประเวศ จับกุมตัว นายมนัส กวินภัทรพรต หรือ ตั้ม อายุ 43 ปี หัวหน้าคนงาน ชาวจ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุ 14 ปี ในแคมป์คนงานก่อสร้างย่านประเวศ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ขืนใจด.ญ.14 / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. พร้อม พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุตศ์ รอง ผบก.ปคม.และ พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.6.บก.ปคม. ร่วมกับ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมครอบครัวของเด็กหญิงวัย 14 ปี แถลงการจับกุม นายวรจักร หรือช่างนั้ม พ่อบุญธรรมของด.ญ.14, นายเสมอ บุญมา, นายจรัญ อยู่สถิต และเยาวชนอายุ 16 ปี ผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุข่มขืนด.ญ.วัย 14 ดังกล่าว

พล.ต.ต.วรวัฒน์ กล่าวว่า ภายหลังเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา ปคม.รับเรื่องร้องทุกข์ไว้ดำเนินการ จนกระทั่งออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหา ก่อนประสานเข้ามอบตัวในวันนี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำทั้งฝ่ายผู้เสียหายและผู้ต้องหา ทราบว่าเหยื่ออายุ 14 ปี ไปอาศัยอยู่กับผู้ต้องหาที่เป็นพ่อบุญธรรมมาตั้งแต่อายุ 8 ปี โดยไปช่วยงานก่อสร้าง ได้ค่าจ้าง 70 บาทต่อวัน และพักอาศัยร่วมกันในบ้านพักคนงานที่ จ.สงขลา กระทั่งต่อมาในปี 2561 ก็ถูกกลุ่มผู้ต้องหาข่มขืน โดยที่นายวรจักรก็บังคับให้ทำงานและข่มขืนกันเรื่อยมา

พ.ต.อ.มานะ กล่าวว่า เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาทั้งหมด คือ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และชักจูงส่งเสริมให้เด็กประพฤติมิควร” โดยจะแจ้งข้อหาเพิ่มต่อนายวรจักร ฐาน “แสวงหาประโยชน์จากการใช้แรงงาน และจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเป็นลูกจ้าง” อันเป็นความผิดฐานการค้ามนุษย์

โดยต่อจากนี้จะแยกสอบปากคำถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหาแต่ละราย ซึ่งในที่นี้มีเยาวชน 1 ราย ก่อนส่งศาลอาญา และศาลเด็กและเยาวชนนำตัวไปฝากขังต่อไป และสั่งค้านประกันในคดีค้ามนุษย์เนื่องจากเป็นความผิดที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ยังพบประวัติเกี่ยวกับยาสารเสพติดของผู้ต้องหาบางราย ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในประเด็นอื่นๆ ก่อนดำเนินการต่อไป

ด้าน นายรักพงษ์ สุรนาคะพันธุ์ ทนายผู้ต้องหา กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนในเรื่องทางคดีก็จะรวบรวมพยานหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์อีกครั้ง เพราะมีข้อมูลบางประเด็นที่ทำให้เกิดความสงสัยว่าผู้ต้องหาไม่ได้กระทำผิดจริง และคดีที่เกิดในพื้นที่ สน.ประเวศ ไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 ทั้งนี้ ก็เตรียมนำเงินกรมธรรม์มาประกันตัวผู้ต้องหารายละ 300,000 บาท

ขณะที่พ่อของผู้เสียหาย กล่าวว่า ต้องการร้องขอให้ผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับโทษประหารชีวิต เพราะรับไม่ได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาเองก็มีลูกสาวเหมือนกัน แต่ทำไมมาทำกับตนแบบนี้ ตลอดระยะเวลาที่ลูกสาวตนไปทำงานก็ติดต่อไม่ได้ และจนปัจจุบัน ลูกตนก็ยังอ่านไม่ค่อยออก เขียนไม่ค่อยได้ อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกดีขึ้น ที่สามารถจับตัวผู้ต้องหามาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน