เมื่อวันที่ 3 เมษายน ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย เช็คประวัติพบ สีสุก ดาวเฮือง ชาวลาว เครือข่ายยาเสพติดไซซะนะ เข้าออกไทยบ่อย แต่ไม่มีแบล็คลิสต์ขึ้น ขณะที่สังคมออนไลน์ของลาวยกเป็นประเด็นร้อน ชื่นชมเจ้าหน้าที่จับกุมได้

กรณีเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ทำการจับกุม นายสีสุก ดาวเฮือง พ่อค้ายาเสพติดรายสำคัญ เครือข่ายนายไซซะนะแก้วพิมพา ได้ที่หลวงพระบาง สปป.ลาว เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา และมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ ปส.ของไทย จะขอเข้าสอบปากคำนายสีสุก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของลาวด้วยนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 3 เม.ย. ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ได้ตรวจสอบประวัติการเข้าออกของนายสีสุก ดาวเฮือง พบว่ามีการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย บ่อยครั้ง โดยถือหนังสือเดินทาง 2 เล่ม เลขที่ P0881891 และ P1568042 ใช้รถเข้ามา 2 คัน เป็นรถแลนด์โรเวอร์สีดำ สลับกับ อีกคันเป็นสีขาว ทะเบียน 9999 กำแพงนคร เข้ามาทำพิธีการผ่านแดนเช่นเดียวกับคนทั่วไปตามปกติ โดยจะอยู่ในไทยประมาณ 3-10 วัน หลังจากนั้นจะเดินทางออกนอกประเทศผ่านทางสุวรรณภูมิ ไม่ทราบเป้าหมายที่เข้ามาอยู่ ส่วนจะมีการเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในไทยหรือในจังหวัดหนองคายหรือไม่นั้นเจ้าหน้าที่ยังไม่มีข้อมูลด้านนี้ และเนื่องจากนายสีสุก ไม่มีแบล็คลิสต์บุคคลสำคัญ ทำให้สามารถเดินทางเข้าออกได้ตามปกติ

ขณะเดียวกันสังคมออนไลน์ของลาว หยิบเอาเรื่องการถูกจับในครั้งนี้มาพูดคุยกันเป็นวงกว้าง โดยนำภาพขณะที่นายสีสุก ถูกใส่กุญแจมือนั่งอยู่ในรถที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ของไทยไปประกอบ โดยต่างพากันแสดงความคิดเห็นหลากหลาย ส่วนใหญ่เห็นด้วยที่เจ้าหน้าที่เอาจริงเอาจังกับการปราบปราม กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่ทำลายสังคมและอนาคตของประเทศ พร้อมชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ลาวด้วย

วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงษ์ รอง ผบช.ปส. เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับ ป.ป.ส. ว่าตำรวจ บช.ปส.และ ป.ป.ส.ไทยที่ประจำการในลาว ได้ประสานขอเข้าร่วมสอบปากคำท้าวสีสุก ดาวเฮือง นักค้ายาเสพติดชาวลาว ในประเด็นเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศไทยที่พบหลักฐานความเชื่อมโยงกับท้าวสีสุก รวมถึงความเชื่อมโยงกับนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาชาวลาวที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ขณะนี้รอทางการลาวยืนยันวันเข้าสอบปากคำ และทางการลาวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และหลังสอบปากคำมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการออกหมายจับท้าวสีสุก แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อน

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่า หลังจากทางการไทยจับกุมนายไซซะนะ ทางการลาวเริ่มปราบปรามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด โดยท้าวสีสุกเป็นหนึ่งในผู้ที่ทางการลาวออกหมายเรียกเข้ามาให้ข้อมูลหลายเรื่อง รวมถึงความเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด แต่ท้าวสีสุกไม่มาพบตามหมายเรียก ทางการลาวจึงต้องออกหมายจับและเข้าจับกุมได้ที่เมืองหลวงพระบาง ระหว่างหลบหนี เมื่อ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา

โดยในส่วนของทางการไทยนั้น มีข้อมูลเกี่ยวกับคดียาเสพติด ที่ก่อนหน้านี้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดของไทย จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดและมีการซัดทอดถึงท้าวสีสุกเท่านั้น คาดว่าภายหลังสอบปากคำ น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ พบว่าท้าวสีสุกมีการฟอกเงินในลักษณะเดียวกับนายไซซะนะในประเทศไทย แต่ยังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ยังไม่พบว่ามีดาราหรือคนมีชื่อเสียงในไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง

รอง ผบช.ปส. กล่าวต่อว่า สำหรับความเชื่อมโยงของท้าวสีสุกและนายไซซะนะพบว่า เป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ของ สปป.ลาวเช่นกัน ในสปป.ลาวการข่าวพบว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดประมาณ 30 กลุ่มใหญ่ กลุ่มท้าวสีสุกกับนายไซซะนะ แม้จะเป็นคนละกลุ่มแต่ร่วมกันค้าเป็นบางครั้ง แต่จากข้อมูลการข่าว มูลค่าทรัพย์สินของท้าวสีสุก จัดว่าเป็นเครือข่ายใหญ่กว่านายไซซะนะ และทำมานานกว่า พฤติการณ์คือสร้างเครือข่ายลักลอบขนยาเสพติดจากฝั่งลาวเข้ามาที่เมืองไทย และส่งจำหน่ายในพื้นที่ภาคใต้

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวอีกว่า ส่วนการจับกุมนายเทิดศักดิ์ เกตุพรม หรือหนึ่ง สำโรงเหนือ นั้น เนื่องจากขบวนการค้ายาในลาวมีมากกว่า 30 กลุ่ม และมีพฤติการณ์ค้ายาคล้ายกันคือใช้ไทยเป็นทางผ่านลงสู่ภาคใต้ จึงยังไม่ชัดเจนว่า เป็นเครือข่ายเดียวกับนายไซซะนะ และท้าวสีสุกหรือไม่ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบทั้งเส้นทางยาเสพติด และเส้นทางการเงิน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน