คลังเปิดทางถือบัตรคนจน ลงทะเบียนรับ 1,000 บาท เพื่อใช้ในมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ ได้ด้วย คาดมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ 1.3 แสนจุด ไม่ห้ามซื้อเบียร์ สุรา บุหรี่ เริ่มลงทะเบียนรับสิทธิ 23 ก.ย. – 15 พ.ย. 2562 นี้ในเป้าหมาย 10 ล้านราย

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน14.6 ล้านราย สามารถมาลงทะเบียนเพื่อรับเงิน 1 พันบาท ตามมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ได้ด้วย โดยยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวไม่มีการจำกัดสิทธิ์ประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยเป็นการเปิดกว้างให้ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถมาลงทะเบียนเพื่อรับเงินได้ รวมทั้งไม่ได้มีการห้าม หรือจำกัดไม่ให้นำเงิน 1 พันบาท ที่รัฐบาลจะจ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง (G-Wallet) นำไปซื้อสินค้าประเภทสุรา เบียร์ บุหรี่ โดยห้ามไม่ให้นำไปเติมน้ำมันตามสถานีบริการน้ำมันเท่านั้น

“ไม่ได้มีการห้ามว่าไม่ให้นำเงินที่รัฐแจกให้ 1 พันบาท ไปใช้ซื้อสุรา เบียร์ บุหรี่ ตรงนี้ถือเป็นสิทธิของผู้ถือเงิน คงไปห้ามไม่ได้ แต่ถ้าพิจารณาตามหลักการแล้วก็ไม่ควร

นอกจากนี้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถ้ามีอายุ 18 ปี ก็สามารถมาลงทะเบียนได้ ซึ่งจะทำให้ผู้มีรายได้น้อยได้รับเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิมรายละ 200-300 บาทต่อเดือน และได้รับเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก เดือนละ 500 บาท จำนวน 2 เดือน และได้รับจากมาตรการชิมช้อปใช้อีก 1 พันบาทด้วย” นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าว

นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าวอีกว่า กรมบัญชีกลางได้เริ่มเปิดรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการชิม ช้อป ใช้ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีร้านค้าทั้งที่อยู่ในส่วนร้านธงฟ้าประชารัฐซึ่งเป็นฐานข้อมูลเดิม 8 หมื่นร้านค้า และร้านค้ารายใหม่ที่สนใจสมัครเข้าร่วมมาตาการทั้งสิ้น 1.3 แสนร้านค้า ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอรองรับการใช้งานจากประชาชน 10 ล้านราย

สำหรับประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิมาตรการชิมช้อปใช้ รับเงิน เป๋าตัง (G-Wallet) จำนวน 10 ล้านคน ได้ ทาง www.ชิมช้อปใช้.com ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 15 พ.ย. 2562 (วัน/รอบละ 1 ล้านคน)

โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน และมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน และมีสมาร์ทโฟน เครือข่ายอินเตอร์เน็ต มีอีเมลล์ โดยต้องกรอกข้อมูล ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และอีเมลล์ พร้อมเลือกจังหวัดที่ประสงค์จะเดินทางไปใช้สิทธิ ต้องไม่ใช่จังหวัดตามสำเนาทะเบียนบ้าน

ทั้งนี้ เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะยืนยันให้ทราบทันทีว่าลงทะเบียนสำเร็จ และจะแจ้งทางอีเมลล์ให้ทราบอีกครั้ง กรณีลงทะเบียนไม่สำเร็จ (กรณีรายที่เกิน 1 ล้านต่อวันระบบจะแจ้งให้ทราบว่าเต็มจำนวนสำหรับรอบวันนั้นแล้ว) และสามารถลงทะเบียน ได้อีกครั้งในรอบถัดไป หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกส่งไปตรวจสอบความถูกต้องกับกรมการปกครอง และภายใน 3 วัน

ธนาคารกรุงไทยจะส่งเอสเอ็มเอสไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้ หากถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบว่า ได้รับสิทธิ พร้อมแจ้งรายละเอียด จังหวัด และระยะเวลา วันที่สามารถไปใช้สิทธิให้ทราบ (ภายใน 14 วัน หลังจากได้รับเอสเอ็มเอส) หากไม่ถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบกรณีที่ผิดพลาด ซึ่งสามารถดำเนินการลงทะเบียนใหม่ในรอบถัดไปได้ และดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง เมื่อได้รับเอสเอ็มเอส ยืนยันการได้รับสิทธิ ตามขั้นตอน

โดยจะมีระบบให้ยืนยันตัวตน หลังจากนั้นจะแจ้งวงเงิน 1 พันบาทในเป๋าตัง ช่องที่ 1 และเริ่มใช้งาน และจะมีเป๋าตัง ช่อง 2 เพื่อให้เติมเงินและนำไปใช้จ่าย และได้รับเงินชดเชย (Cash Back) 15% ของจำนวนเงินที่ใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4.5 พันบาท จากวงเงินการใช้จ่ายไม่เกิน 3 หมื่นบาท

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า กรณีที่มีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน นำเงินไปซื้อเหล้า เบียร์ บุหรี่ ยืนยันว่าเป็นแค่คนส่วนน้อย ต้องมีบ้าง ซึ่งตอนนี้ได้สั่งให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามข้อมูลและสื่อสารให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าใจวัตตถุประสงค์ของมาตรการ และกระตุ้นให้ใช้เงินอย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีเป้าหมายชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เกิดการจับจ่ายใช้สอยและเกิดสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และชุมชน หากไม่มีมาตรการ ความมั่นใจก็จะหายไป การจับจ่ายใช้สอยก็จะหายไป คนที่ถูกกระทบก็คือผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจในภาพรวม

สำหรับมาตรการสนับสนุนการท่องที่ยว หรือ กิน ช้อป ใช้ ก็มีความสำคัญต้องดูแล เพราะการท่องเที่ยวถือเป็นหัวจักรสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้ประกอบการ และประชาชนที่เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดการจ้างงาน หาไม่มีมาตรการดูแลในจุดนี้ อาจจะทำให้คนตกงาน มีรายได้น้อยลง กระทบกับเศรษฐกิจ

นายอุตตม กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกมีความท้าทายมาก กระทบกับเศรษฐกิจไทยอย่างเห็นได้ชัด จากปีที่แล้วที่ขยายตัวได้ 4.1% มาถึงไตรมาส 1/2562 ขยายตัวได้ 2.8% และไตรมาส 2/2562 ขยายตัวได้ 2.3% ซึ่งเห็นการชะลอตัวของเศรษฐฏิจอย่างชัดเจน รัฐบาลจึงเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษกิจ 3.16 แสนล้านบาท เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งยืนยันว่าเป็นการแก้ไขปัญหาตรงจุด ถูกเป้าหมาย ดำเนินการรวดเร็ว ทันสถานการณ์

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายอุตตม ถึงกรณีมาตรการชิม ช้อป ใช้ ที่แจกเงิน 1,000 บาท และเปิดให้สามารถนำไปซื้อ บุหรี่ เบียร์ สุรา ได้ด้วยนั้น นายอุตตม ไม่ตอบคำถามดังกล่าว พร้อมเดินหน้านิ่งออกจากวงสัมภาษณ์ทันที


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน