ดีเอสไอ มั่นใจหลักฐานภาพวงจรปิด คดีอุ้มฆ่าบิลลี่ ยันทำคดีตรงไปตรงมา ไม่มีใครตัดตอน

วันที่ 4 ก.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มเครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเลในประเทศไทย นำโดย นายสมชาย รักษ์สองพูล และนายประยงค์ ดอกลำไย ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) เข้ายื่นหนังสือขอบคุณและขอให้เร่งสืบสวนคดีหาผู้ต้องหากระทำผิดกรณีการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ”บิลลี่” โดยมีพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ มารับหนังสือ

นายสมชาย กล่าวว่า เครือข่ายกะเหรี่ยงขอบคุณดีเอสไอที่ทุ่มเททำคดีการหายตัวไปของนายบิลลี่ จนสามารถพิสูจน์ยืนยันวัตถุพยานสำคัญจนระบุได้ว่า บิลลี่เสียชีวิตแล้วจึงอยากให้ดีเอสไอเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีและกระทรวงยุติธรรมให้เยียวยาความเสียหายให้กับครอบครัวของบิลลี่ รวมทั้งขอให้รัฐบาลไทยเร่งออกกฎหมายป้องกันไม่ใช้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจโดยมิชอบก่ออาชญากรรมต่อชีวิตร่างกายทรัพย์สินและเสรีภาพของประชาชน

ด้าน นายเกรียงไกร ชีช่วง ชาวกะเหรี่ยง กล่าวว่า คดีนี้ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอในการช่วยชาวบ้านต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ จนทำให้รู้ว่าบิลลี่ไม่ได้ทำตัวเองให้หายไปอย่างที่ถูกกล่าวหา แต่ถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ขณะที่ น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่ได้ให้อภัยกับผู้ก่อเหตุแล้ว และยังมั่นใจว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงอยากให้ผู้ที่ทำให้บิลลี่เสียชีวิตกล้ายอมรับผิดด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ แต่พวกเราเชื่อว่าเขาไม่มี จึงอยากให้ดีเอสไอดำเนินคดีจนถึงที่สุด

“ชาวบ้านรู้สึกเห็นใจเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่เข้ามารับช่วงทำคดีของบิลลี่หลังจากเวลาผ่านไปแล้ว 3-4 ปี แต่ยังพยายามค้นหาหาหลักฐาน วัตถุและพยานจนทำให้พิสูจน์ได้ว่า คดีการหายไปของบิลลี่เป็นคดีที่เกิดจากการฆาตกรรมอำพราง จึงขอให้กำลังใจ และคดีนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวกระเหรี่ยงและกลุ่มชาติพันธ์กล้าลุกขึ้นมาทวงถามความยุติธรรมจากรัฐไทยนายเกรียงไกร กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ดีเอสไอพยายามสืบสวนเพื่อนำตัวคนผิดมาลงโทษ ซึ่งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้สั่งการให้ดีเอสไอเร่งดำเนินการ ระหว่างนี้พนักงานสอบสวนยังอยู่ในพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม และได้สอบปากคำพยานที่เป็นญาติทางมารดาของนายบิลลี่ เพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรม อย่างไรก็ตามคาดว่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เมื่อพยานหลักฐานทุกอย่างเพียงพอก็จะเรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ

ขอยืนยันว่า พยานหลักฐานที่ดีเอสไอมีอยู่ ทั้งภาพถ่ายกล้องวงจรปิด และอื่นๆทีเก็บรักษาไว้จะไม่มีใครสามารถเข้าตัดตอนได้อย่างเด็ดขาด และแม้ว่าคดีดังกล่าวจะผ่านมา 5 ปีแล้ว แต่พนักงานสอบสวนดีเอสไอไม่เคยละความพยายามในการสืบสวน ขอให้มั่นใจว่าดีเอสไอจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา

รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงการหาความสัมพันธ์ทางสายโลหิตด้วยวิธีการตรวจ ไมโตรคอนเดีย ดีเอ็นเอ นั้น ทางแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า เป็นสายพันธุ์ที่มาจากมารดา ส่วนจะมีการตรวจหาสารพันธุกรรมจากญาติพี่น้องฝั่งมารดาของบิลลี่ทั้งหมดหรือไม่นั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่ไม่ทราบว่าตรวจครบทั้งหมดแล้วหรือยัง แต่ข้อมูลจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นผลการตรวจเบื้องต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน