จากกรณีนางเรณู หมดราคี อายุ 40 ปี แม่ของ พลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม อายุ 22 ปี หรือพลทหารเบนซ์ ทหารกองประจำการ ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าลูกชายถูกรุมซ้อมขณะถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำ มณฑลทหารบกที่ 45 และเสียชีวิตตอนเข้ารับการรักษาตัว จนนำไปสู่การออกหมายจับทหาร 10 นาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 เม.ย. พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ร่มไทร สว.(สอบสวน) กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นำสำนวนการสอบสวน ยื่นขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา 10 ราย ในคดีทำร้ายร่างกาย พลทหารยุทธกินันท์ ต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิต ทั้งนี้ตุลากรได้ใช้เวลาพิจารณาสำนวน ร่วม 4 ชั่วโมง ก่อนอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา 9 ราย ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นนายทหารประจำการชั้นประทวน 4 นาย ทหารกองประจำการ 5 นาย ประกอบด้วย จ่าสิบเอกยรรยง สำลีเมือง, จ่าเอกสนอง คำสีทา, จ่าเอกเฉลิมพงษ์ นิลสุวรรณ, จ่าเอกปรเมศร์ เต็มยอด, พลทหารศักราวุฒิ พลรัตน์, พลทหารจักรพันธ์ เขียวสวัสดิ์, พลทหารภาคภูมิ สืบมาศ, พลทหารสิทธิชัย พบยอด ทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำทหาร มทบ.45 และพลทหารภูวเดช ธรายุทธภูมิ ผู้ช่วยสิบเวร และให้ยกคำร้องสิบเอกสุรเชษฐ์ พรหมมาศ สิบเวร โดยศาลพิเคราะห์ว่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติกรรมสร้างความยุ่งเหยิงให้กับพยานหลักฐาน โดย ให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกมายังมณฑลทหารบกที่ 45 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

ต่อมาเวลาพล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผบ.มทบ.45 พร้อมด้วย นายศุภวัชร ศักดา รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และพ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดย พล.ต.วิชัย กล่าวว่า ผู้ต้องหา 9 ราย ที่ศาลอนุมัตออกหมายจับ มี 8 คน ยังต้องโทษกักขังอยู่ในเรือนจำ มทบ.45 ส่วนอีก 1 คน เป็นทหารกองประจำการทำหน้าที่ผู้ช่วยสิบเวร ซึ่งขั้นตอนต่อไปคณะพนักงาน จะเข้าดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา และสอบสวนปากคำต่อไป ส่วน ส.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งขณะนี้ ตนได้ออกคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ บก.มทบ.45 หากพนักงานสอบสวนส่งหมายเรียกมา ก็จะเร่งส่งตัวให้ทันที

พล.ต.วิชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับนายทหารประจำการ จำนวน 5 นายที่ตกเป็นผู้ต้องหาซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับไว้แล้ว ตนจะได้ มีคำสั่งให้พักราชการ จนกว่ากระบวนการทางกฎหมายจะเสร็จสิ้น ส่วนจะมีบุคคลใดเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน และ มทบ.45 พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ในทางการสืบสวนของข้อเท็จจริงของคณะกรรมการที่ มทบ.45 แต่งตั้งขึ้นพบว่าผู้ที่ก่อเหตุมี 5 คน ส่วนที่เหลือมีส่วนรู้เห็น ไม่มีการห้ามปราม ซึ่งคณะกรรมการจะสรุปสำนวนการสืบสวนข้อเท็จจริงรายงานต่อกองทัพบก ภายในวันที่ 7 เม.ย.นี้ โดยการสืบสวนข้อเท็จจริงนั่น จะเป็นการรายงานข้อเท็จจริงถึงระดับความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นด้วย ซึ่งตนในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของ มทบ.45 ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย” ผบ.มทบ.45 กล่าว

พล.ต.วิชัย กล่าวและว่า เมื่อผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า เหตุทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นภายในเรือนจำ มทบ.45 จึงถือว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ประจำเรือนจำ จึงจะมีการสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดแม้ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม

ทางด้าน พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังนี้คณะพนักงานสอบ จะได้เข้าแจ้งข้อหากับผู้ต้องหา และเริ่มกระบวนการสอบสวนปากคำ ผู้ที่ศาลออกหมายจับทั้งหมด โดยจะขออำนาจศาลฝากขังที่เรือนจำ มทบ.45 นอกจากนี้จากการสอบสวนปากคำพยานยังพบว่ามีบุคคลอื่นนอกเหนือจากผู้ที่ศาลออกหมายจับเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งทางคณะพนักงานสอบสวนจะเร่งรวบวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับต่อไปภายหลังศาล มทบ.45 อนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นนางเรณูได้เข้าพบ พล.ต.วิชัย เพื่อขอพบหน้าผู้ก่อเหตุที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ หลังจากนั้นผู้ต้องหา 8 คน ได้เข้ามาพบนางเรณู ก่อนที่ทั้งหมดจะนั่งคุกเข่าพนมมือ แล้วก้มลงกราบเท้าเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป ทำให้นางเรณู ถึงกับสะอื้น พร้อมกับพูดว่า “แม่ขออโหสิกรรมให้” พร้อมทั้งเตรียมเผาร่างลูกชายในวันที่ 10 เม.ย.ที่วัดกัลปนาราม ต.เวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน