หิ้วแบรนด์เนมเตรียมตัว ปีหน้าเครื่องสแกนครบ เห็นทุกใบไม่สำแดงโดนหนัก!

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมศุลกากรไปเร่งตรวจสอบร้านจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี หรือ ดิวตี ฟรี ที่ปัจจุบันมีจำหน่ายในหลายพื้นที่ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของการจัดเก็บรายได้ภาษีจากสินค้าดังกล่าว โดยให้เข้าไปดูระบบและเชื่อมโยงข้อมูลการจำหน่ายสินค้า เพื่อควบคุมและดูสต็อกสินค้าว่าสมดุลกันหรือไม่ เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีได้เต็มประสิทธิภาพ โดยกรมศุลกากรจะต้องตรวจสอบการจำหน่ายและการนำเข้าให้ละเอียดและเข้มข้นมากขึ้น เพื่อประสิทธิภาพในการดูแลสูงสุด

“ปัจจุบันประเทศไทยมีร้านค้าปลอดภาษีทั้งในสนามบิน และในตัวเมือง ซึ่งข้อดีก็คือเป็นการช่วยส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว แต่ปัญหาการลักลอบก็มีอยู่ ซึ่งกรมศุลฯ ก็ต้องตรวจดูป้องกันการรั่วไหลด้วย ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้กรมศุลกากร เร่งติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์คร่อมสายพายที่สนามบินสุวรรณภูมิให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าออนไลน์ที่นำเข้ามาในไทย รวมถึงการลับลอบขนสินค้าเกษตรเข้ามาจำหน่ายต่อในประเทศด้วย”นายสันติ กล่าว

ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมศุลกากรเร่งเชื่อมต่อระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลการนำเข้าส่งออกสินค้าในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ National Single Window ทั้ง 37 หน่วยงานในประเทศ และ 10 ชาติสมาชิกอาเซียนให้แล้วเสร็จในสิ้นปีนี้ รวมถึงให้มีการใช้เทคโนโลยีการตรวจสินค้านำเข้าให้เข้มข้นมากขึ้น เช่น เครื่องเอ็กซเรย์ เพื่อป้องกันการลับลอบการนำเข้าที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาทิ หัวหอม กระเทียม ข้าวเหนียว และน้ำมันปาล์ม รวมถึงสินค้าที่นำเข้ามาเพื่อจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์ด้วย

ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งเปิดการใช้งานเครื่องเอกซเรย์คร่อมสายพานลำเลียงกระเป๋าเดินทางที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 23 เครื่อง ให้เสร็จและเริ่มใช้ได้วันที่ 1 ม.ค.2563 โดยเครื่องดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสแกนกระเป๋าเดินทางที่โหลดมาใต้ท้องเครื่องบินได้ทุกใบ เพื่อดูว่ามีสินค้าต้องห้ามการนำเข้าตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) ยาเสพติด รวมถึงสินค้าแบรนด์เนมที่มีราคาสูงและเข้าข่ายเสียต้องภาษีด้วย

“การใช้งานของเครื่องเอ็กซเรย์นี้จะช่วยสแกนกระเป๋าได้ทุกใบ และหากสแกนแล้วพบกระเป๋าเดินทางใบไหนมีความน่าสงสัยก็จะทำสัญลักษณ์ไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณช่องสำแดง และหากพบกระทำผิดก็จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งการทำลักษณะนี้จะช่วยแก้ปัญหาธุรกิจพรีออร์เดอร์ หรือรับหิ้วสินค้าที่เลี่ยงภาษีมาขายในประเทศได้ แต่หากเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไปที่มีการซื้อของมาใช้ปกติและมีมูลค่าไม่เกินกำหนดก็ไม่ต้องกังวลอะไร”นายกฤษฎา กล่าว

“หากมีสิ่งของต้องสงสัย เครื่องจะโชว์ สัญลักษณ์เตือนทันที เจ้าหน้าที่จะรู้หมด ดังนั้น ขอให้นักท่องเที่ยว ที่มีของต้องสำแดง เดินเข้าช่องสีแดงเอง ไม่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่เรียกขอเปิดกระเป๋า มิฉะนั้นจะเสียทั้งภาษี และค่าปรับ”

จึงขอแนะนำให้ นักเดินทาง สำแดงสินค้าที่พกติดตัวเข้ามาจากต่างประเทศ ที่ช่องสีแดง หรือ มีสินค้าที่ต้องสำแดง เพื่อชำระภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งดีกว่าการตัดสินใจเดินเข้าช่องสีเขียว หรือ ไม่มีสินค้าที่ต้องสำแดง ทั้งที่ มีภาพจากเครื่องเอ็กซเรย์เป็นหลักฐาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน