ทนาย ข้องใจ ป.ป.ท.ดองเรื่องจับ บิลลี่ 4 ปีไม่คืบหน้า! เผยกรณีนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใคร

วันที่ 8 ก.ย. นายสุรพงษ์ กองจันทึก หัวหน้าคณะทำงานช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจาน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2558 น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ส่งหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อให้สอบสวนเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในขณะนั้น นำโดย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กรณีจับกุมนายพอละจี เนื่องจากมีน้ำผึ้งป่าไว้ในครอบครอง แต่ไม่ส่งตัวนายพอละจีให้พนักงานสอบสวน แต่กลับปล่อยตัวไป ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.2557 ก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นนายพอละจีอีกเลย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ต่อมา ป.ป.ท. มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนการหายตัวไปของนายพอละจีขึ้น ซึ่ง น.ส.พิณนภา ได้ติดตามความคืบหน้าของการสอบสวนดังกล่าวมาโดยตลอด ทราบว่าคณะอนุกรรมการฯ ได้ดำเนินการสอบคำให้การเพิ่มเติมกับทั้ง 3 ปาก โดยครบถ้วนแล้ว แต่ยังไม่มีการแจ้งความคืบหน้าแต่อย่าง

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ได้รับการชี้แจงจาก ป.ป.ท. ว่าได้ไต่สวนพยานหลักฐานของทั้งผู้ร้อง และผู้ถูกร้องเสร็จสิ้นแล้ว โดยทางคณะอนุกรรมการไต่สวนจะส่งสำนวนพร้อมสรุปความเห็นเสนอให้คณะกรรมการบริหารเพื่อพิจารณาลงมติชี้มูลว่า มีการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ในวันที่ 26 ส.ค. 2562 และจะแจ้งมติการพิจารณาให้ผู้ร้องทราบโดยเร็ว แต่ถึงขณะนี้เราทราบมาว่ายังไม่มีการแจ้งมติจากทางป.ป.ท.เลย

“อยากทราบว่าทำไม ป.ป.ท.ถึงดองเรื่องนี้ไว้โดยไม่เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ รวมถึงที่กรณี นายโคอิ มีมิ หรือ ปู่คออี้ แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมพวก วางเพลิงเผาทรัพย์บ้านเรือนที่พักอาศัยตั้งแต่ปี 2554 โดยได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2558 และสำนวนถูกส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ภาค 7 และคณะกรรมการบริหารพิจารณา และมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนรับผิดชอบคดีดังกล่าวแล้วตั้งแต่ปี 2559” นายสุรพงษ์ กล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าจากคณะอนุกรรมการ ทั้งที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาชัดเจน ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.61 ว่า หมู่บ้านใจแผ่นดินและบางกลอยบนที่ปู่คออี้อยู่เป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมที่อยู่มาเนิ่นนานแล้ว เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้เผาทำลายบ้านเรือนและทรัพย์ของปู่คออี้จริง เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้กรมอุทยานแห่งชาติฯชดใช้ค่าเสียหายให้กับนายคออี้และพวก จึงอยากขอให้ ป.ป.ท.เร่งรัดการดำเนินการทั้งสองคดี ซึ่งล่าช้ามามากแล้ว

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับบิลลี่ ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครอีก โดยก่อนหน้านี้ได้มีแนวคิดเรื่องจัดทำไวท์ลิสต์ขึ้นเพื่อปกป้องคุ้มครองนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เคยเสนอเรื่องนี้ไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่หลังจากเปลี่ยนอธิบดี การผลักดันเรื่องดังกล่าวก็เงียบหายไป จึงอยากให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาและผลักดันอีกครั้ง เพื่อปกป้องนักสิทธิมนุษยชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อบ้านเกิด หรือปากท้องของตัวเอง จะได้ไม่ต้องเจอการกระทำที่โหดร้ายเฉกเช่นเดียวกับบิลลี่อีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 16 ก.ย. มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และองค์กรเครือข่ายท่ัวประเทศ จะร่วมจัดงานรำลึกถึงบิลลี่ และเสวนาวิชาการเรื่อง การฆาตกรรมอำพรางศพนายพอละจี หรือบิลลี่ บุคคลใด ต้องรับผิดชอบ และเสวนาเรื่อง ปัญหาสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองกะเหรี่ยงแห่งบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน

__________________________________

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน