สอบเส้นทางเงิน โจม แหลมเกต พบจาก 50 ล้าน-เหลือ 90 บาท แฉปมเงินล่องหน

แหลมเกต / เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.ศิร์รัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผบก.ปคบ. พร้อม พ.ต.อ.ธวัช ปิ่นประยงค์ รองผบก.ปคบ. และพ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.1 บก.ปคบ. แถลงการจับกุมนายอพิชาต บวรบัญชารักข์ หรือนายโจม พารณจุลกะ เจ้าของร้านบุพเฟ่ต์ซีฟู้ดแหลมเกต

พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต กล่าวว่า ภายหลังตำรวจ กก.1 บก.ปคบ.ได้รับร้องเรียนจากประชาชนผู้เสียหายรวมกว่า 626 รายว่า ร้านแหลมเกตจัดโปรโมชั่นทานอาหาร 27 รายการอย่างไม่จำกัดในราคาถูก โดยคิดค่าอาหารเป็นรายหัวคนละ 888 บาท และโฆษณาทางเฟซบุ๊กกับเว็บไซต์ของร้านชื่อ www.laemgate.net รวมถึงไลน์ @laemgate นอกจากนี้ทางร้านยังได้จำหน่ายบัตรรับประทานอาหาร เช่น “โปรราชาทะเลบุฟเฟต์” ชุดละ 880 บาท “โปรนาทีทองมาแล้วจ้า” ชุดละ 2,020 บาท “โปรแฟนพันธุ์แท้” ชุด 3,000 บาท โดยต้องจองคิวออนไลน์และโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหา ซึ่งระยะแรกไม่มีปัญหา

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต กล่าวต่อว่า โปรโมชั่นดังกล่าวเป็นที่ดึงดูดผู้คนให้มาซื้อบัตรทานอาหารจำนวนมาก แต่ปรากฎว่าเมื่อได้เข้าไปรับประทานอาหารแล้วพบว่ามีรายการอาหารไม่ตรงตามที่โฆษณาและต้องชำระเงินค่าอาหารเพิ่ม ขณะที่ผู้เสียหายบางรายที่ได้ซื้อวอชเชอร์ไว้แล้วกลับเข้าไปรับประทานไม่ได้ โดยทางร้านอ้างเหตุผลต่างๆ ไม่สามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหาย จนกระทั่งปิดร้านหลบหนีไป รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 5 ล้านบาท

ทางบก.ปคบ.ได้รับเรื่องร้องทุกข์ จึงตั้งชุดทำงานสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมประสานป.ป.ง. เพื่อไล่ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และได้สอบปากคำผู้เสียหายหลายราย จนกระทั่งขอศาลอนุมัติออกหมายจับนายอภิชาต หรือนายโจม และกรรมการบริหารบริษัทอีกราย ในฐานความผิดร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดคุณภาพปริมาณในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ก่อนจับกุมนายนายอภิชาต ซึ่งให้การปฏิเสธ ก่อนส่งตัวฝากขังศาลอาญา พร้อมค้านประกันตัวในชั้นสอบสวน และกำลังติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดอีกรายมาดำเนินคดี

พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ว่าจ้างคอลเซ็นเตอร์ ให้โฆษณาขายวอชเชอร์ดังกล่าวจนมีผู้ซื้อ 22,067 ราย นับได้แล้วกว่า 3 แสนที่นั่ง ซึ่งเมื่อขยายการตรวจสอบจำนวนเงินจากผู้ซื้อทั้งหมด รวมคนที่ยังไม่แจ้งความแล้วกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังไล่ติดตามเส้นทางการเงินทั้งหมด โดยพบว่าผู้ต้องหายังนำเงินไปใช้ผ่อนชำระค่ารถยนต์ ค่าคอนโดมิเนียมและค่าบ้าน จนล่าสุดมีเงินเหลือเพียง 90 บาทเท่านั้น

พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ฝากเตือนว่า ปัจจุบันมีกลุ่มมิจฉาชีพในลักษณะขายโปรโมชั่นราคาถูกแบบนี้มีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้น ทั้งการซื้อตั๋วเครื่องบิน หรือจองห้องพัก แนะนำว่าหากประชาชนต้องการซื้อโปรโมชั่นใดๆ ต้องสอบถามข้อมูลไปยังต้นทางเสมอ เช่น สั่งจองที่พัก ก็ให้สอบถามไปยังโรงแรมเจ้าของดังกล่าว เพราะแม้จะซื้อในงานอีเวนท์ต่างๆ ก็ไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์ ซึ่งหากยังมีผู้เสียหายในคดีนี้รายอื่นๆ ทั้งผู้ที่ขายวัตถุดิบให้กับร้านและได้รับเช็คเด้ง หรือผู้ซื้อวอชเชอร์ที่ยังไม่แจ้งความ ก็สามารถมาพบตำรวจที่บก.ปคบ.ได้

อ่านข่าว รวบ โจม เจ้าของร้านแหลมเกต หลังดราม่าโปรโมชั่นบุพเฟ่ต์ซีฟู้ด ฐานฉ้อโกง!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน