คลังยอมรับระบบสแกนภาพหน้ากับบัตรประชาชนยังมีปัญหา สั่งกรุงไทยเร่งแก้ใน 1-2 วัน แนะมือถือรุ่นใหม่ถ่ายภาพสวย ใช้แอพแต่งภาพ ทำให้ระบบจับภาพไม่ผ่าน

2 ต.ค. นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ได้ประสานงานไปยังธนาคารกรุงไทย เพื่อปรับปรุงระบบยืนยันตัวตน โดยคาดว่าจะใช้เวลา 1-2 วัน ทำให้การถ่ายรูปตัวตนในมาตรการชิมช้อปใช้ สะดวกมากขึ้น หลังจากที่เกิดปัญหา ผู้รับสิทธิ์ถ่ายรูปไม่ผ่านหลายครั้ง ซึ่งจากการประเมิน ปัญหาไม่ได้มาจากภาพ แต่เป็นในเรื่องของความสว่างของภาพถ่าย ก็ได้ให้ไปดูให้ดี ควบคุมความสว่างของภาพไม่ให้ระบบสแกนภาพยากจนเกินไป

“โทรศัพท์รุ่นใหม่ ที่ภาพถ่ายออกมาสวยมากๆ หรือใช้แอพลิเคชั่นทำให้ภาพหน้าฟรุ้งฟริ้ง ไม่ตรงกับบัตรประชาชน ทำให้ถ่ายภาพไม่ผ่านเป็นจำนวนมาก ก็ได้สั่งให้ไปปรับปรุงระบบให้เสร็จภายใน 1-2 วัน”

นายลวรณ กล่าวว่า ยืนยันว่ามาตรการชิมช้อปใช้ไม่ได้เอื้อกับผู้ประกอบการรายใหญ่ จากการใช้จ่ายในช่วง 5 วันแรกที่ 628 ล้านบาท มีการใช้จ่ายผ่านห้างขนาดใหญ่แค่ 142 ล้านบาทหรือ 22% เท่านั้น ขณะที่ยอดลงทะเบียนชิมช้อปใช้ 7 วันแรก อยู่ที่ 5.5 ล้านราย ส่งเอสเอ็มเอสยืนยันสิทธิ์แล้ว 4.7 ล้านราย เหลือส่งเอสเอ็มเอส 8 แสนราย โดยใน 4.7 ล้านราย มีจำนวน 2.7 ล้านรายที่โหลดแอพลิเคชั่นเป๋าตังแล้ว อีก 8.2 แสนรายยังไม่ได้ทำอะไรเลย และอีก 1.1 ล้านรายอยู่ระหว่างดำเนินการสแกนภาพหน้าผ่านสิทธิ์

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินในโครงการชิมช้อปใช้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 6 หมื่นล้านบาท เป็นการอุดหนุนจากรัฐ 1.9 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการใช้จ่ายจากประชาชนในกระเป๋า 2 เพื่อขอรับเงินแคชแบ็ค 15% โดยคาดว่าจะส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้ให้ขยายตัวเพิ่มได้ไม่ต่ำกว่า 0.2-0.3% จากเป้าหมาย 3% ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการระยะยาวสิ้นสุด 30 พ.ย. การใช้จ่ายในช่วง 5 วันแรกที่ 300 ล้านบาทจึงไม่ใช้น้อยเกินไป แต่เป็นการทยอยใช้


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน