ญาติพริตตี้ถูกหลอกแต่งงาน เผยเคยเห็นหน้า เสี่ยกำมะลอ ครั้งเดียวก่อนงานวิวาห์ ยอมรับจัดงานสุดอลังการ ไม่คิดจะเบี้ยวจ่ายเงิน จี้แสดงความรับผิดชอบ อย่าให้พี่สาวแบกภาระคนเดียว

จากกรณี น.ส.ดา (นามสมมติ) อายุ 30 ปี พริตตี้สาวชาว จ.บุรีรัมย์ เข้าพบทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอความเป็นธรรมและปรึกษาทางด้านคดีหลังถูก นายท็อป (นามสมมติ) หรืออีกชื่อคือ นายเท็น อ้างเป็นนักธุรกิจรวยหมื่นล้าน รู้จักแค่เพียง 1 วัน หลอกให้แต่งงานและจดทะเบียนสมรส โดยจัดงานที่โรงแรมหรู จ้างออร์แกไนซ์เสียเงินกว่า 3.5 ล้านบาท ก่อนเจ้าบ่าวจะเบี้ยวไม่จ่ายเงิน ทำให้ตัวเองต้องกลายเป็นคนชดใช้หนี้แต่เพียงผู้เดียว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ภาพเจ้าบ่าว-เจ้าสาวถ่ายรูปร่วมกับเพื่อนที่เดินทางมาร่วมงานวิวาห์ ก่อนรู้ว่าถูก หลอกแต่งงาน

ภาพเจ้าบ่าว-เจ้าสาวถ่ายรูปร่วมกับเพื่อนที่เดินทางมาร่วมงานวิวาห์ ก่อนรู้ว่าถูก หลอกแต่งงาน

ล่าสุดวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าเดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริงกับญาติฝ่ายน.ส.ดา เจ้าสาวในพื้นที่ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โดยทั้งหมดต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีใครรู้จักฝ่ายเจ้าบ่าวว่าเป็นใครมาจากไหน เคยเห็นหน้าครั้งเดียวเมื่อครั้งที่น.ส.ดา พามาร่วมงานศพตาที่เสียชีวิตเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และเห็นอีกครั้งตอนได้รับการ์ดเชิญไปร่วมงานแต่งงานที่โรงแรมในตัวเมืองบุรีรัมย์

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

น.ส.ฝน (สงวนชื่อนามสกุลจริง) อายุ 27 ปี ลูกพี่ลูกน้องกับเจ้าสาว เปิดเผยว่า ตอนที่น.ส.ดาพาฝ่ายชายมาร่วมงานศพของตาที่บ้าน ก็ไม่ได้แนะนำว่าฝ่ายชายเป็นใคร แต่ที่ผ่านมาตั้งแต่น.ส.ดาไปทำงานที่กรุงเทพฯ ก็ยังไม่เคยเห็นพาใครมาด้วย แต่เท่าที่ดูลักษณะท่าทางการแต่งตัวของฝ่ายชายก็ดูดี ภูมิฐาน แม้จะอายุมากกว่าฝ่ายหญิง

ญาติของพริตตี้ที่ถูกหลอกแต่งงานและต้องรับภาระจ่ายค่าจัดงาน

ญาติของพริตตี้ที่ถูกหลอกแต่งงานและต้องรับภาระจ่ายค่าจัดงาน

“หลังจากได้รับการ์ดเชิญให้ไปร่วมงานแต่งงานของทั้งคู่ เราและครอบครัวก็เดินทางไปร่วมงานเพื่อแสดงความยินดีในฐานะที่เป็นญาติกัน ยอมรับว่างานจัดอย่างหรูหราอลังการ จึงคิดว่าฝ่ายชายน่าจะมีฐานะพอสมควรถึงจัดงานใหญ่โตขนาดนี้ได้ แต่เราไม่ได้เดินทางไปร่วมพิธีหมั้นในตอนเช้า จึงไม่ทราบว่าสินสอดมีอะไรบ้าง แต่มีพิธีกรประกาศในงานเลี้ยงตอนเย็นว่าสินสอดเป็นเช็คเงินสด 1.6 ล้านบาท” น.ส.ฝน กล่าว

น.ส.ฝน กล่าวอีกว่า พอมาทราบข่าวทีหลังว่าเกิดปัญหา ฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ยอมจ่ายค่าจัดงานแต่ง ปล่อยให้ฝ่ายเจ้าสาวต้องมารับผิดชอบเอง อีกทั้งเช็คเงินสดที่เป็นสินสอดก็หายไป ก็รู้สึกตกใจ และสงสารพี่สาวมาก ไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็อยากฝากถึงฝ่ายเจ้าบ่าวให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดงานด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้พี่สาวต้องมารับภาระคนเดียว เพราะฐานะทางบ้านก็ถือว่าค่อนข้างยากจน คงไม่มีเงินไปจ่ายขนาดนั้น

ด้าน นายสมหมาย (นามสมมุติ) พ่อของน.ส.ดา เปิดเผยว่า ตนเคยเจอกับนายเท็น 2 ครั้ง ครั้งแรกตอนนายเท็นมาร่วมงานศพพ่อตาของตน ครั้งที่สองคือ ตอนจัดงานแต่งงาน ตอนอยู่ในงานศพ นายเท็นก็บอกว่ารักลูกของพ่อ จบงานศพแล้วจะมาแต่งงาน แล้วมาขอแต่งงานจริง ๆ

นายสมหมาย กล่าวอีกว่า นายเท็นสร้างโปรไฟล์หรูเริด บอกว่าทำงานเป็นที่ปรึกษาให้ นายทักษิณ ชินวัตร ตอนจัดงานแต่งงานก็มีขันหมากมา บรรยากาศใหญ่โต แต่มีพิรุธคือ ญาติของนายเท็นมาแค่ 10 คน ซึ่งผิดวิสัยนักธุรกิจ และเมื่อแต่งงานเสร็จ นายเท็นก็บอกว่าจะไปฮ่องกง ก่อนหายตัวไป ทำให้ตนโกรธมากที่มาหลอกลูกของตน

__________________________________

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน