หนุ่มหัวร้อน ลั่น โมโหโดนขับจี้ตูด แค่ต่อยสั่งสอน เอาประแจมากะเจรจาด้วย!

จากกรณี หนุ่มคนหนึ่งสวมหมวกกันน็อก ได้ก่อเหตุชก หญิงสาวคนหนึ่ง แม้ว่า ฝ่ายหญิงจะพยายามยกมือไหว้ขอโทษ แต่ชายคนดังกล่าวกลับต่อยสวนเข้ามาในรถ พร้อมกับเดินวนเวียนอยู่ข้างรถ พร้อมได้ตีรถจนกระจกแตกนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 8 ต.ค. ที่ สน.จรเข้น้อย พ.ต.อ. พงษ์จักร จักษุรักษ์ ผกก.สน.จรเข้น้อย พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธเนศ ศรีจำปา รอง ผกก.สืบสวน สน.จรเข้น้อย และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้สอบปากคำ นายฉัตรชัย ปรุงสุข หรือ เบิร์ด อายุ 33 ปี ผู้ต้องหา หลังจากหลังเข้าไปเชิญตัวที่ บ้านพักเอื้ออาทร ย่าน ลาดกระบัง พร้อมรถที่ใช้ก่อเหตุ และประแจเบอร์ 23

นายฉัตรชัย กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนขับรถมาทิ้งขยะ คู่กรณีขับรถตามประกบมาจี้ตูด แล้วตนก็สงสัยว่าทำไมต้องขับตามมาจี้ตูดระยะประชั้นชิดด้วย มันผิดวิสัย ไม่แน่ใจว่าเขาตบไฟใส่รึป่าว เราไม่ได้ขับรถเลนส์กลาง เราคิดว่าเราขับอยู่ในเลนส์ซ้ายแล้ว ตอนแรกขับมาแล้วตนก็หลบแล้ว แต่เขายังขับรถแช่ตามประจบ ตนเลยตัดสินใจจอดรถ แล้วต้องการที่จะเจรจา

ในตอนนั้นผมไม่รู้ว่าคู่กรณีคือผู้หญิง ตนไปเคาะหระจก จะสอบถาม ว่าขับรถตามมาทำไม มีอะไรรึป่าว ตนอยากจะรู้ ตนโมโหที่คู่กรณีไม่ยอมคุย และกระจกรถก็หนีบมือด้วย อารมณ์ผมอยากจะสั่งสอนคู่กรณีด้วยว่าทำไมถึงไม่พูดด้วย เพราะคู่กรณีหันไปคุยกับเพื่อนข้างๆ เขาไม่ยอมคุยด้วย เลยชกไป 1 ครั้ง

“ จากนั้นก็เดินไปที่รถ ไม่ได้ตั้งใจจะไปเอาประแจ เราอยากเจรจากับเขา ผมเลยเดินกลับมาที่รถคู่กรณีใหม่ ตอนนั้นรู้แล้วว่าเขาไม่ยอมเปิดกระจกมาคุยกัน ผมอยากจะถามว่าต้องการจะให้รับผิดชอบอะไรมั้ย แต่ผมไม่ได้พูดออกมาเป็นประโยค แต่คู่กรณีไม่ตอบอะไรมาเลย ผมคิดว่าเค้าคงไม่สนใจ ยังคงหันไปคุยกับเพื่อนอยู่ ผมเลยเอาประแจที่พกติดตัวมาทุบกระจกรถ เพราะระบายอารมณ์ ทุบกระจกไป 3 ครั้ง ใช้เท้าถีบไปที่กระจกข้าง 1 ครั้ง ถีบแรง ใช้นิ้วดีดหักได้ ผมต้องการเจรจาแต่เขาไม่พูด ได้แต่ขอโทษอย่างเดียว “

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า พอหลังเกิดเหตุ ตนก็แวะไปกินข้าวจากนั้นตนกลับมาดูที่เกิดเหตุว่าคู่กรณี สภาพรถ มีอุปกรณ์อะไรแตกเสียหายไหม ไม่ได้ตั้งใจจะทำลายหลักฐาน เพราะหากจะทำลาย ตนก็ทิ้งประแจไปแล้ว เราพกประแจติดตัวอยู่แล้วไว้เป็นอาวุธป้องกันตัว ตนอยากขอโทษในส่วนที่ตนทำผิดไป แต่ส่วนที่คู่กรณีมีปัญหากับตน ตนปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกฎหมาย เรายอมชดใช้ค่าเสียหาย แต่ต้องว่าไปตามกฎหมาย จะต้องดูว่ารถมีประกันหรือไม่ แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมา ตนไม่ได้หนี เพราะว่าไม่ได้ติดตามข่าวสารเลย ยอมรับว่าทำไปนั้นมันรุนแรงสำฟรับผู้หญิง แต่ว่าที่ทำไปเพราะว่ามีอารมณ์โกรธ

ด้าน พ.ต.ท.ธเนศ กล่าวว่า หลังจากที่ผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดี ทางชุดสืบสวนก็มีการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง จนทราบรถของนายฉัตรชัยและทะเบียนรถ จากนั้นก็มีการไปเชิญตัวมาจากบ้านพักเอื้ออาทร ย่านลาดกระบัง ในตอนแรกที่ไปถึง ห้องของนายฉัตรชัยล็อคห้องอยู่ ทางตำรวจจึงต้องมีการไขกุญแจเข้าไป และพบว่า รถมอเตอร์ไซค์ที่นายฉัตรชัยขับ ก็เอาเข้าไปจอดในห้องด้วย จากนั้นก็เชิญตัวมา ที่ สน.จรเข้น้อย เพื่อสอบปากคำ โดยนายฉัตรชัย ก็ยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุจริง เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา 2 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น และ ข้อหาทำให้เสียทรัพย์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน