เปิดปม ดาบตำรวจ เครียดชักปืนจ่อยิงขมับตัวเองกลางโรงพักทองหล่อ ก่อนเดินทางฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ 28 พ.ย.นี้ เผยอาการล่าสุดเป็นตายเท่ากัน

จากกรณี ด.ต.กิตติวุฒิ ชูหนู ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ อายุ 51 ปี ใช้อาวุธปืนพกประจำกาย ขนาด 9 มม. จ่อยิงศีรษะตัวเองหวังฆ่าตัวตาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวนเวรประจำวันที่ 25 พ.ย.2562 เวลา 00.00-08.00 น. ภายในห้องสอบสวน สน.ทองหล่อ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนเจ้าหน้าที่จะช่วยกันเร่งนำส่งโรงพยาบาลคามิลเลียน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สน.ทองหล่อ พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนร่วมงานของ ด.ต.กิตติวุฒิ ชูหนู ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ ที่เพิ่งทราบข่าวต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้บนโรงพัก ขณะที่บริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ที่ชั้นล่างของโรงพักที่กั้นเป็นห้องรับรองพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

ต่อมา พล.ต.ต.สามารถ​ ศรีสิริวิบูลย์ชัย​ ผบก.น.5 ได้เดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าที่​ สน.ทองหล่อ พร้อมเปิดเผยว่า​ สาเหตุที่ด.ต.กิตติวุฒิลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากเกิดความเครียดที่จะต้องเดินทางไปขึ้นศาลในฐานะจำเลย โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ สน.มักกะสัน

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พล.ต.ต.สามารถ กล่าวต่อว่า ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาจะตรวจสอบและหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้​ ด.ต.กิตติวุฒ​ิ เคยถูกดำเนินคดีปลอมแปลงบัตรเครดิตมาแล้วเมื่อปี​ 2557​ แต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง​ กระทั่งในปี 2560​ ก็ถูกกองบังการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เข้าจับกุมอีกครั้ง เนื่องจากเป็นบุคคลเฝ้าระวัง โดยครั้งนี้ยังไม่พบว่ามีมูลค่าความเสียหายจากการใช้บัตรเครดิตแต่อย่างใด ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษามีความผิด

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า โดยด.ต.กิตติวุฒิได้ยื่นอุทธรณ์ และในวันที่​ 28​ พ.ย.นี้ ศาลอุทธรณ์ได้นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง จึงทำให้ด.ต.กิตติวุฒเกิดความเครียดและก่อเหตุดังกล่าว

สำหรับอาการของด.ต.กิตติวุฒิ ขณะนี้ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลคามิลเรียล ซึ่งอาการเป็นตายเท่ากัน เนื่องจากบาดแผลสาหัส ลูกกระสุนถูกยิงเข้าจากศีรษะซ้ายทะลุขวา โดยมีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะมีอาการสมองบวม ยังคงใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน