แจ้งเอาผิด ปารีณา-ทวี ฮุบที่30ไร่ ‘อัจฉริยะ’ ท้าฟ้องกลับ ลั่นต้องการหมายศาล เผยพ่อ ยกที่ดินให้ตนและน้องสาว50 ไร่ แต่กลับถูกทวีล้อมรั้วปลูกต้นมะพร้าวไป 30 ไร่ อ้างเป็นที่ดินของทวีเอง ทนายดังลั่นมีหลักฐานเอาผิด

ปารีณา / เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่กองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมพร้อม น.ส.ปราณี นำพา อายุ 49 ปี เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผบก.ปทส. เพื่อร้องขอให้ดำเนินคดีต่อ นายทวี ไกรคุปต์ อดีตรมช.คมนาคม และ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ข้อหาบุกรุกป่าสงวน ตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2507 ม.14 และพ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 ม.54 “ห้ามไม่ให้บุคคลใดยึดถือครองทำประโยชน์ อาศัยในที่ดิน แผ้วถางทำลายป่า หรือกระทำการใดอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าฯ” ในพื้นที่ ม.6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้พาครอบครัวน.ส.ปราณีมาร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับนายทวีฐานบุกรุกที่ดิน และดำเนินคดีกับน.ส.ปารีณาที่บุกรุกที่ดินกว่า 30 ไร่ และบุกรุกที่ดินป่าสงวนย่านสวนผึ้งกว่า 1,000 ไร่ นอกจากนี้ ยังให้ดำเนินคดีต่อน.ส.ปารีณากรณีบุกรุกที่ดินย่านจอมบึงในความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ

ยืนยันว่าตนมีหลักฐานเอาผิดทั้ง 2 คนได้ ซึ่งนับเป็นสิทธิของประชาชนที่สามารถร้องทุกข์ตามกฎหมาย เพราะเป็นความผิดอาญาแผ่นดินจึงไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่รัฐหรือกรมป่าไม้เป็นเจ้าทุกข์ สำหรับประเด็นที่น.ส.ปารีณา เตรียมแจ้งความกลับตนและนายวีระนั้นไม่มีความกังวล ขอให้รีบไปแจ้ง ตนต้องการหมายศาลเพื่อที่จะได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเร็วขึ้น

ด้าน น.ส.ปราณี ชาวบ้านหมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า นายเสี้ยว นำพา ผู้เป็นพ่อ ยกที่ดินให้ตนและน้องสาวกว่า 50 ไร่ เป็นผู้ครอบครองเมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าถูกนายทวี บุกรุกล้อมรั้วปลูกต้นมะพร้าวไปกว่า 30 ไร่ และอ้างว่าเป็นที่ดินของนายทวีเอง ซึ่งที่ผ่านมาพ่อใช้ที่ดินผืนทำมาหากินมากว่า 50 ปี

ทั้งนี้นำเอกสารหลักฐานใบเสียภาษี ภ.บ.ท.5 ที่ตนเสียภาษีมาตั้งแต่ปี 2517-2557 และเอกสารการตรวจสอบของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 จ.ราชบุรี ที่ยืนยันการครอบครองที่ดินตามโครงการสำรวจถือครอง เพื่อการจัดการที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ และเอกสารกรมป่าไม้ที่มีลายเซ็นเจ้าหน้าที่กำกับ ซึ่งก็เคยแจ้งความที่สภ.สวนผึ้ง พร้อมกับร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า แม้เจ้าหน้าที่ประสานให้นายทวีเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่เจ้าตัวไม่ยอมเข้ามาพบ

ขณะที่ พล.ต.ต.วิวัฒน์ เปิดเผยว่า หลังรับเรื่องร้องทุกข์ก็จะต้องสอบปากคำ ก่อนไปตรวจสอบว่าผู้ร้องทุกข์เคยไปร้องทุกข์ในพื้นที่ใดไปแล้วบ้าง ส่วนเรื่องทางคดีหากพบว่าเป็นคดีเดียวกันกับที่กรมป่าไม้จะเข้าแจ้งความ ก็จะรวมสำนวนเป็นคดีเดียวกัน ซึ่งตำรวจต้องประสานรับข้อมูลจากทุกฝ่าย ทั้งเรื่องการรังวัดที่ดินและอื่นๆ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน