จากกรณีที่ได้มีการเผยแพร่ภาพทางสื่อโซเชียลเกี่ยวกับพ่อและญาติของเด็กแฝดหญิงน้องใบบัวและน้องใบตองที่ได้พากันยื้อแย่งเด็กทั้ง 2 คนไปจากยายและป้าของเด็กที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิด โดยนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ และทนายความไปด้วย โดยที่เด็กแฝดไม่เต็มใจที่จะไปอยู่กับพ่อที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเลย แต่สุดท้ายก็โดนพ่อแย่งเอาตัวขึ้นรถไปได้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ยายและป้าพากันร้องไห้ด้วยความคิดถึงหลาน และวอนขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้การช่วยเหลือด้วย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 เม.ย. ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ นายสุพล บริสุทธิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้ ตนได้เร่งประสานงานไปยังพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นนทบุรี เพื่อให้เข้าไปติดตามดูสภาพความเป็นอยู่ของด.ญ.พัณณิตา พลอยไป หรือน้องใบบัว อายุ 7 ปี และ ด.ญ.พัทธ์ธีรา พลอยไป หรือน้องใบตอง อายุ 7 ปี ที่ถูกพ่อคือนายสุรชัย กับญาตินำตัวไปอยู่ด้วยที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ว่าขณะนี้เด็กทั้ง 2 คน สภาพความเป็นอยู่เป็นอย่างไรบ้าง สามารถที่จะอยู่ได้อย่างมีความสุขหรือไม่อย่างไร หากว่าพ่อไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูเด็กได้ ทางพัฒนาสังคมทั้ง 2 จังหวัดจะได้เข้าไปให้การช่วยเหลือดูแล ซึ่งเรื่องนี้ พ่อของเด็กมีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะเลี้ยงดูเด็กโดยให้ยายและป้ามีสิทธิ์ไปเยี่ยมได้ตามสมควร แต่หากว่า เด็กฝาแฝดทั้ง 2 คนมีความต้องการที่จะกลับมาอยู่กับยายและป้าที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิด ก็ขึ้นอยู่กับการตกลงของญาติทั้ง 2 ฝ่าย โดยพัฒนาสังคมทั้ง 2 จังหวัดพร้อมที่จะเป็นตัวกลางในการประสานงานให้ โดยยึดเอาตัวเด็กเป็นสำคัญ หากว่าเด็กมีความสุขก็จะทำให้เด็กเติบโตเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติต่อไปในอนาคต

ทางด้าน นางเสาร์ พวงท้าว อายุ 66 ปี ยายของน้องใบบัวและน้องใบตอง กล่าวว่า ตนและญาติพี่น้องมีความพร้อมที่จะเลี้ยงดูน้องใบบัวและน้องใบตองได้เป็นอย่างดี เพราะว่าเลี้ยงดูเด็กทั้ง 2 คนมาตั้งแต่เกิดแล้ว โดยช่วงที่เด็กทั้ง 2 คนอยู่กับตนเด็กมีความสุขมาก เนื่องจากว่า อยู่กับตนมีญาติพี่น้องเยอะมาก และเด็กมีเพื่อนเล่นเพื่อนไป ร.ร. ญาติพี่น้องทุกคนทั้งลุงป้าน้าอา ก็มีความรักเอ็นดูหลานทั้ง 2 คนเป็นอย่างมาก จะไปเที่ยวที่ใดก็จะพาไปด้วยตลอด ทำให้เด็กมีสุขภาพจิตที่ดีแจ่มใส แต่ว่าการที่เด็กไปอยู่กับพ่อไม่ทราบว่า จะมีความเป็นอยู่อย่างไร เพราะว่าไปอยู่กับคนแปลกหน้าและไปอยู่กับพ่อที่เด็กเกิดมาแล้วไม่เคยรู้ว่า ชายคนที่มาเอาตัวไปนี้คือพ่อของตนเอง
ทางด้าน นางหนูจันทร์ อิสาณ อายุ 43 ปี ชาวบ้านดวนใหญ่ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ในฐานะแม่ของลูก 2 คนชาวศรีสะเกษคนหนึ่ง กล่าวว่ ตนขอวอนไปยังพ่อของเด็กทั้ง 2 คนว่า หากพ่อรักลูกสาวแฝดทั้ง 2 คน ควรที่จะเห็นแก่ความสุขของลูก โดยการอนุญาตให้ลูกสาวทั้ง 2 คน กลับมาอยู่กับยายและป้าได้ โดยให้พ่อส่งเสียเลี้ยงดูค่าใช้จ่าย และหมั่นมาเยี่ยมเยียนเพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคยให้รู้ว่านี่คือพ่อของเด็กทั้ง 2 คน หากขืนดึงดันเอาเด็กไปอยู่ด้วยทั้งที่เด็กไม่เต็มใจก็จะทำให้เด็กทั้ง 2 คน กลายเป็นเด็กมีปัญหา ซึมเศร้า ซึ่งจะไม่เกิดผลดีกับเด็กแต่อย่างใด ญาติทั้ง 2 ฝ่ายควรที่จะเจรจากันเพื่อให้เด็กมีความสุขในดำรงชีวิตอยู่จะเป็นการดีที่สุด

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน