เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 24 เม.ย. ที่กองปราบปราม น.ส.กฤษิรา ภูภัทระศิริ หรือกุ้ง ซึ่งมีอาชีพจัดหานางแบบ หรือโมเดลลิ่ง พร้อมกลุ่มนางแบบ หรือสาวพริตตี้ กว่า 10 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป.พ.ต.ท.วชิรา ยาวไธสงค์ รองผกก.ปพ. เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีโมเดลลิ่งรายหนึ่ง ที่ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า “แพนด๊อกสไมล์ พิณพาธ” ในความผิดฐานฉ้อโกง ภายหลังติดต่อให้กลุ่มผู้เสียหายรับงานทั้งในและต่างประเทศ โดยเรียกเก็บเงินค่ามัดจำ แต่กลับแจ้งยกเลิกงาน ก่อนเชิดเงินค่ามัดจำไป รวมมูลค่าเสียหายกว่า 2 แสนบาท พร้อมนำหลักฐานการโอนเงินทางอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง และเอกสารที่เกี่ยวข้อง มามอบไว้เป็นหลักฐาน

น.ส.กฤษิรา กล่าวว่า ผู้เสียหายทั้งหมดที่รวมตัวเข้ามาแจ้งความนี้ ทำงานเป็นสาวพริตตี้ ก่อนหน้านี้ได้รับการติดต่อรับงานโชว์ตัวจากโมเดลลิ่งรายนี้ ที่ตั้งเงื่อนไขว่าพวกตนทุกคนจะต้องวางเงินมัดจำ 1,000 บาท เพื่อป้องกันเบี้ยวงานจนอาจทำให้งานได้รับความเสียหาย ซึ่งพวกตนก็ยินดีที่จะจ่ายเงินส่วนนี้ แต่ภายหลังกลับไม่ได้ทำงานตามที่ได้ติดต่อไว้ และก็ไม่ได้รับเงินมัดจำคืนอีกด้วย เท่าที่ทราบจากในเฟซบุ๊กดังกล่าว มีผู้เสียหายประมาณ 30 คน ส่วนตนที่กลายเป็นเหยื่อไปด้วย ก็เพราะต้องรับงานไปติดต่อพริตตี้อีกทอดหนึ่ง และเสียเงินมัดจำไปประมาณ 40,000 บาท

น.ส.กฤษิรา กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุก็พยายามทวงถามเพื่อขอเงินคืนแล้ว ก็ได้มีการเจรจาและนัดหมายจ่ายเงินคืนให้ในวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้เงินคืน ซึ่งฝ่ายโน้นยังท้าให้ตนไปแจ้งความดำเนินคดีได้เลย เพราะถึงอย่างไร ก็คงทำได้แค่เพียงนัดไกล่เกลี่ยกันเท่านั้น จึงตัดสินใจนัดหมาย รวมตัวกันเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แม้ว่ายอดเงินที่เสียหายอาจไม่มากมาย แต่พวกตนต้องการที่จะปรามเพื่อไม่ให้เขาไปทำแบบนี้กับใครอีก เพราะการเอาเงินของคนอื่นไปหมุนเพื่อใช้จ่ายในงานของตัวเองแบบนี้มันไม่ถูกต้อง

ด้านน.ส.ภูริดา จรัสฉัตรศศิธร ผู้เสียหายอีกราย ให้การว่า เพิ่งรู้จักกับโมเดลลิ่งรายนี้ได้ไม่นาน จนได้รับการติดต่อให้ไปทำงาน “พริตตี้” ที่ประเทศสิงคโปร์ 1 วัน ค่าจ้างประมาณ 10,000 บาท จึงตัดสินใจรับงาน เพราะเห็นว่าการจ่ายเงินมัดจำแค่ 1,000 บาท นั้นคุ้มค่าต่อเงินค่าจ้างที่ได้รับ แต่ภายหลังกลับได้รับแจ้งว่างานยกเลิกกระทันหัน แต่ก็ยังมีงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ที่อาร์ซีเอ ภายหลังกลับบอกยกเลิกงาน

โดยโมเดลลิ่งคนดังกล่าว มักจะแจ้งยกเลิกก่อนถึงกำหนดวันเวลาทำงานเพียงไม่กี่วัน จนทำให้เสียโอกาสไปรับงานอื่น ซึ่งจริงๆ แล้ว หากมีงานจริง ก็น่าจะต้องมีค่าเสียเวลาหากเขาทำงานเป็นมืออาชีพ แต่เท่าที่ทราบมาคือบางงานก็ไม่มีการจัดขึ้นแต่อย่างใด เป็นเพียงการสร้างเรื่องขึ้น เพื่อหลอกเอาเงินมัดจำเท่านั้น

น.ส.ภูริดา ให้การอีกด้วยว่า หลายๆงานที่เขามักจะอ้างว่าต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ ก็มีการชักชวนพร้อมกับให้วางเงินมัด แต่ภายหลังก็ยกเลิกงานเหมือนเดิม ซึ่งสร้างความเสียหายมาก เท่าที่ทราบนอกจากพวกตนแล้ว ก็ยังมีบรรดานายแบบที่ได้รับการติดต่อรับงานเหมือนกันอีกกว่า 10 คน ซึ่งถูกหลอกในลักษณะเดียวกันอีกด้วย

เบื้องต้น พ.ต.อ.สุวัฒน์ ได้รับเรื่องไว้ โดยได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ร้องไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชา พิจารณาสั่งการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน