เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปัญหาน้ำท่วม ว่า สำหรับการวางแผนการบริหารจัดการน้ำโดยรวมเป็นเรื่องของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำที่มีน้ำหลากแล้วการระบายน้ำ ต้องมีแนวทางการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ในการทำงานนั้นนายกรัฐมนตรีให้ทำงานร่วมกัน ทางกระทรวงมหาดไทยก็จะดูเรื่องผลกระทบเป็นหลัก และหารือร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไร ทางกรมชลประทานจะบริหารน้ำในลักษณะแก้มลิงเอาน้ำไปพักไว้ในทุ่งต่างๆ โดยการเอาน้ำเข้าไปนั้นต้องไม่ให้กระทบกับการทำการเกษตรของประชาชน เช่น การทำนา ต้องให้เกี่ยวข้าวก่อนแล้วค่อยเอาเข้าไป โดยกระทรวงมหาดไทยต้องพิจารณาว่า ถ้ามีผลเสียหายเกิดขึ้นจะหาทางบรรเทาได้อย่างไร จะเลื่อนวันได้บ้างหรือไม่หากมีผลกระทบ จะช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งตนเตรียมเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในวันเดียวกันนี้

DCIM100MEDIADJI_0558.JPG

DCIM100MEDIADJI_0558.JPG

รมว.มหาดไทย กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการชดเชยนั้น หากเป็นพื้นที่ประกาศภัยพิบัติก็มีขั้นตอนอยู่แล้ว แต่ต้องคิดถึงความเป็นจริงด้วยว่า ขณะนี้ข้าวกำลังออกรวง หากผันน้ำเข้าไปจะมีผลกระทบโดยตรงกับจิตใจของประชาชน ตนจึงเตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีว่าจะมีหนทางใดที่จะช่วยเหลือประชาชนในลักษณะเช่นนี้หรือไม่อย่างไร แต่ถ้าเลื่อนวันเอาน้ำเข้าทุ่งได้ ก็จะพิจารณาให้ถึงที่สุดจนกว่าจะเกี่ยวข้าวได้ แต่ถ้าจะมีบ้างบางแปลงที่จำเป็น ก็น่าจะให้ความช่วยเหลือ ขอเสนอนายกรัฐมนตรีก่อน ได้ให้พื้นที่เร่งสำรวจในพื้นที่น่าจะได้ทราบอย่างรวดเร็ว

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในที่ประชุมครม.วันเดียวกันนี้กระทรวงมหาดไทยรายงานการแก้ไขปัญหาสถานการณ์น้ำท่วม ตลอดจนแนวทางการสำรวจผู้ประสบภัย และการให้การช่วยเหลือ ทั้งขณะน้ำท่วม และหลังน้ำท่วม โดยมุ่งเป้ามาตรการเชิงพื้นที่ ทำความเข้าใจกับประชาชน ถึงมาตรการเยียวยาและสถานการณ์ภาพรวม เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ทั้งนี้ งบประมาณดำเนินการ นั้นมีงบฉุกเฉินที่เตรียมการไว้อยู่แล้ว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน