อธิบดีอัยการต่างประเทศคุมบังเหียนตั้งคณะทำงานล่า “บอส อยู่วิทยา” กลับมาดำเนินคดี ระบุโยกย้ายที่อยู่ไม่ใช่เรื่องง่ายเเม้มีเจ็ทส่วนตัว ชี้หากมีการเพิกถอนหนังสือเดินทางจะช่วยกดดันให้มอบตัวได้

จากกรณีที่นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเจ้าของเครื่องดื่มชื่อดัง กระทิงแดง มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2555 จนกระทั่งผ่านไป 5 ปี ยังไม่ได้ส่งฟ้องศาลเนื่องจากจำเลยขอเลื่อนนัดอัยการถึง 7 ครั้ง และทำให้คดีหมดอายุความไปแล้ว 2 คดี เป็นเหตุให้สื่อต่างชาติให้ความสนใจตีข่าวอย่างครึกโครม

อ่านข่าว ขออังกฤษ-ส่งตัว ล่า “บอส” ศาลอนุมัติจับแล้ว!อัยการตั้งทีมดูสำนวน คดีซิ่งเก๋งชนดต.ดับ 7วันเสร็จ-เสนอบัวแก้ว ตร.ยันกลับไทยรวบแน่

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 29 เม.ย. นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัวนายวรยุทธหรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหาย และไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในทันทีว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานของอัยการในการติดตามตัวนายวรยุทธแล้ว โดยตนเป็นหัวหน้าคณะทำงานด้วยตนเอง เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน ส่วนคณะทำงานที่มาร่วมนั้นต่างมีประสบการณ์ทำงานด้านนี้มาแล้วแต่ไม่ขอเปิดเผยเนื่องจากเป็นเรื่องภายใน

นายอำนาจ กล่าวว่า สำหรับการขอตัวนายวรยุทธเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ทางประเทศอังกฤษจะต้องพิจารณาใน 2 ประเด็นว่า เป็นคดีทางแพ่งหรือคดีการเมือง หรือเป็นคดีที่มีความผิดหรือไม่ ส่วนอีกประเด็นหนึ่งคือ เรื่องการเดินทางหลบหนีการติดตามตัวของตัวผู้ต้องหา ที่หลายฝ่ายกังวลว่าผู้ต้องหาจะเดินทาง โยกย้ายที่อยู่ ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ผู้ต้องหาจะมีเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว แต่การเดินทางเข้าออกประเทศต่างๆ จะต้อง ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ในกรณีที่ทางการไทยขอตัวไป เมื่อทางประเทศอังกฤษรับเรื่องแล้วแต่ในระหว่างพิจารณา ผู้ต้องหาหลบหนีไปที่อื่น เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องตามหาหลักแหล่งที่อยู่ของตัวผู้ต้องหาว่าหลบไปที่ไหน

ซึ่งคำขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนที่ยื่นต่ออังกฤษจะยังคงอยู่ กรณีที่อังกฤษไม่ได้ส่งคำร้องคืนกลับมา การขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนก็ยังคงเดินหน้าต่อ เมื่อผู้ต้องหาเดินทางกลับประเทศอังกฤษ อัยการจะดำเนินการยื่นหนังสือใหม่เพียงแค่เปลี่ยนวันที่เท่านั้น เพราะรายละเอียดและเนื้อหาเป็นข้อเท็จจริงเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเสนอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาเพิกถอนหนังสือเดินทางหรือไม่ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวว่า โดยหลักการแล้วการเพิกถอนหนังสือเดินทาง ผู้ที่รับผิดชอบคือกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบ เมื่อรับทราบข้อเท็จจริงว่ามีการหลบหนีออกต่างประเทศ คงจะต้องมีการพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขการเพิกถอนหรือไม่ แต่ทางอัยการสำนักงานต่างประเทศคงไม่ก้าวล่วงที่จะไปแนะนำหรือเสนอ ให้กระทำการเพิกถอนหนังสือเดินทาง เป็นเรื่องที่กระทรวงต่างประเทศจะต้องพิจารณาโดยตรง

โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องไปแจ้งให้กระทรวงต่างประเทศทราบ แต่การเพิกถอนหนังสือเดินทางเป็นการกดดันตัวผู้ต้องหาให้มอบตัวได้ทางหนึ่ง ซึ่งกรณีที่นายวรยุทธตัดสินใจยอมมอบตัวกลับมาเข้าสู่กระบวนการในประเทศไทยย่อมสามารถทำได้อยู่แล้ว โดยเข้าไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วส่งตัวมาให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาล

ส่วนอัยการจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ เป็นเรื่องที่อัยการเจ้าของสำนวนจะพิจารณา ในส่วนการทำหน้าที่ของอัยการสำนักงานต่างประเทศยืนยันว่าจะทำให้เร็วที่สุด ขณะนี้ต้องรอพยานหลักฐานจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ครบถ้วนทั้งหมด เพื่อประกอบการยื่นคำร้องขอตัวนายวรยุทธ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศอังกฤษต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน