จากกรณีนายนิรันดร์ หรือ รัน สร้อยสูงเนิน อายุ 25 ปี หนุ่มหล่อชัยภูมิหายตัวปริศนาไปนาน 18 วัน กระทั่งมีคนมาพบเป็นศพถูกฆ่าฝังดินบริเวณแปลงปลูกป่ายูคาลิปตัส ท้ายวัดโสกตลับ หลังหมู่บ้านโสกตลับ ต.โคกสูง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ สอบญาติแจ้งว่าหายตัวไปพร้อมรถเก๋งมิตซูบิชิ มิราจ สีขาว ทะเบียน 3 กท-4210 กทม. ระหว่างเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อกลับชัยภูมิ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุตร.เช็กสัญญาณโทรศัพท์อยู่บริเวณ อ.จัตุรัส รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดของที่พักแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันไล่ล่า 2 ผู้ต้องหาคือนายหมูหยอง อายุ 18 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ และนายวัชระ สาแก้ว อายุ 22 ปี หรือน๊อต อยู่บ้านเลขที่ 275 หมู่2 บ้านกุดเหม่ง ต.ชีลอง อ.เมืองชัยภูมิ ที่สังหารโหดนายนิรันดร์ ก่อนเผาและฝังเพื่ออำพรางคดี ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

อ่านข่าว จับแล้ว “หมูหยอง” มือแทง “รัน” หนุ่มหล่อ รับวางแผนเอง หวังขายเก๋งซื้อบิ๊กไบก์ (คลิป)

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ชุดสืบสวนและชุดคลี่คลายคดี ส่งตัวนายหมูหยอง ให้พ.ต.ท.ณัฐพล กิ่งโชค หน.พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ดำเนินคดีในข้อหารวมกันกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตาย หรือเหตุแห่งการตายและฆ่าชิงทรัพย์ โดยไต่ตรองไว้ก่อน หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายหมูหยอง อายุไม่เกิน 18 ปี จึงไปส่งฟ้องฝากขัง ที่ศาลคดีเด็กและเยาวชนจังหวัดชัยภูมิ

ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการปิดคดีอุ้มฆ่าโหดเผาฝังดินหนุ่มหล่อชัยภูมิ รายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนรถยนต์ของผู้ตาย ขณะนี้ล่าสุดทางด้าน จนท.ตร.ชุดกองปราบติดตามและทราบจุดที่อยู่ของรถผู้ตายในเต็นท์รถแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพฯ โดยจะได้แล้วตามยึดคืนกลับมาด้วยเช่นกัน และส่วนที่ยังคงหลงเหลืออยู่จากความสูญเสียของครอบครัวหนุ่มหล่อ ที่ต้องมาเสียบุตรชายเสาหลักของครอบครัวไป และผลของการกระทำของผู้ก่อเหตุครั้งนี้ที่มีการกระทำของเด็กและเยาวชน ที่นับวันในปัจจุบันมักมีการก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมรุนแรงสูงมากขึ้น

นายวิชิต ภิรมยาภรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม กล่าวในฐานะผู้ที่เกี่ยวข้องต่อการกระทำผิดเกี่ยวกับคดีเด็กเยาวชนและครอบครัว ให้ความเห็นว่า เรื่องการก่อเหตุคดีซ้ำๆหลังออกจากสถานพินิจ ออกมาน่าจะกลับตัวได้ในระยะเวลา 1-2 ปี ที่จะต้องให้ความสำคัญในการมีการจัดการสงเคราะห์ หน่วยเจ้าหน้าที่คุมประพฤติเข้าไปช่วยสอดส่องดูแลให้มากขึ้น

โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่มีการเคยก่อคดีรุนแรงฆ่าชิงทรัพย์ผู้อื่น ที่ส่วนใหญ่มักจะพบปัญหาคือไม่มีพ่อแม่ดูแล ครอบครัวแตกแยก และมักมีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด อย่างกรณีของนายหมูหยอง และพี่ชาย ที่ทั้ง 2 ก็ไม่มีพ่อแม่ช่วยดูแล ต้องอยู่กับป้า กับยาย มาแต่เด็ก เมื่อกลับไปอยู่กับครอบครัวไม่มีคนที่จะช่วยดูแลได้ดีพอ ก็จะมักกลับไปก่อเหตุที่เคยทำรุนแรงซ้ำได้อีก ซึ่งเรื่องนี้ปัญหาครอบครัวเด็กขาดผู้นำพ่อแม่ไม่มีความอบอุ่นส่วนหนึ่งก็กำลังกลายเป็นปัญหาของสังคม ที่เกิดวิกฤตการใช้ความรุนแรงเยาวชนไทยในปัจจุบัน เป็นจำนวนมากขึ้นด้วย และอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันให้ความสำคัญกับเด็กในกลุ่มนี้มากขึ้นอีกด้วยต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน