เมียพามาปล้น! จับแล้ว โจรปล้นแบงก์ กรุงเทพ ฉก 8 แสน ผบ.ตร.รุดสอบเอง เผยทำไปเพราะต้องการเงินมาใช้จ่าย อ้างปืนที่ใช้เป็นของปลอม พบนําจยย. เสื้อผ้า หมวกนิรภัยไปทิ้งคูน้ำ

โจรปล้นแบงก์ / เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ก.พ. ที่ธนาคารกรุงเทพสาขาโลตัส ประชาอุทิศ 58 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น, พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น.,

พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8, พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.มานพ สุคนธะนพันน์ รอง ผบก.น.8, พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ทุ่งครุ, พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.สส.1บก. สส.บช.น., พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิต ผกก.สส.5 บก.สส.บช.น.

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ร่วมกันแถลงการจับกุมตัว 1.นายชัยวัฒน์ มีชะคะ อายุ 32 ปี ชาว ต.คลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 58/2563 ลงวันที่ 31 มกราคม 2563 2.น.ส.ผกามาศ ประดับวงศ์ อายุ 29 ปี ชาว ต.คลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 59/2563 ลงวันที่ 31 มกราคม 2563

โดยต้องหาว่าได้กระทําความผิดฐาน “ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ผ้าคลุมศีรษะและใบหน้าเพื่อไม่ให้ เพื่อไม่ให้เห็นหรือจําหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทําความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม”

โดยจับกุมตัวได้ เวลาประมาณ 15.50 น เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่บริเวณกลางซอยท่าเรือแดง แขวง พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่มีคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้โลตัส ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.

โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็น เงินสดประมาณ 870,500 บาท และ อาวุธปืนลูกโม่ จํานวน 1 กระบอก จากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคาร กรุงเทพ (ที่เกิดเหตุ) จากนั้นขี่รถจักยานยนต์ หลบหนีไป หลังเกิดเหตุทาง เจ้าหน้าที่ตํารวจฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ รวบรวมพยานหลักฐาน

ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลภาพของกล้องวงจรปิด เส้นทางมาก่อเหตุ และหลบหนีของคนร้าย พบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายได้นํา รถจักรยานยนต์ เสื้อผ้าและหมวกนิรภัย ที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ ไปทิ้งไว้ที่คูน้ำข้างทาง ภายในซอยโปร่งอารมณ์ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน

และพบว่าข้อมูลภาพของกล้องวงจรปิด พบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน คือ น.ส.ผกามาศ (ภรรยา) ผู้ต้องหา ทําหน้าที่เป็นคนขับรถยนต์มาส่งคนร้าย (ที่บ้านพัก ) ย่านสมุทรปราการ ก่อนที่ตัวผู้ต้องหาจะขี่รถจยย.มาเพื่อมาก่อเหตุ และพาหลบหลังเกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่จึงดําเนินการรวบรวม พยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานที่ได้จากทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะลายนิ้วมือแฝง ของคนร้ายที่พบบนหมวกนิรภัยที่ถูกทิ้งไว้

ซึ่งจาการตรวจสอบจากฐานข้อมูลประวัติอาชญากร พบว่าตรงกับลายพิมพ์นิ้วมือของ นายชัยวัฒน์ มีชะคะ จนนําไปสู่การออกหมายจับ นายชัยวัฒน์ และน.ส.ผกามาศ ผู้ร่วมก่อเหตุ ทําหน้าที่ขับรถยนต์พานายชัยวัฒน์ มาก่อเหตุและพาหลบหนี

จนสามารถจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ พร้อมทั้งได้ตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้องในคดีจากผู้ต้องหา ดังนี้ 1.เงินสดรวมจํานวน 401,000 บาท โดยตรวจยึดได้ จากนายชัยวัฒน์ และเงินที่นายชัยวัฒน์นําไปฝาก ไว้กับพ่อและแม่หลังจากก่อเหตุ

2.อาวุธปืน พกสั้น รีวอลเวอร์ ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ขนาด .38 ทะเบียนเลขที่ กท.18019759 จํานวน 1 กระบอกและเครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จํานวน 4 นัด ที่นายชัยวัฒน์ แย่งจากรปภ.ของธนาคาร

3.รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง รุ่นซีวิคไดแมนชั่น หมายเลขทะเบียน วพ9406 กรุงเทพมหานคร จํานวน 1 คัน พร้อมกุญแจ จํานวน 1 ดอก โดยเป็นยานพาหนะที่น.ส.ผกามาศ ขับมาส่ง นายชัยวัฒน์ เพื่อมาก่อเหตุและพาหลบหนี 4.รองเท้าแตะ ยี่ห้อ CROCS สีเทา จํานวน 1 คู่ โดยนายชัยวัฒน์ผู้ถูกจับสวมใส่อยู่ ขณะก่อเหตุ

5.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นโน้ตแฟนอีดิชั่น ด้านหลังสีน้ำเงิน (เครื่องเก่า) เบอร์โทรพร้อมซิมการ์ดหมายเลข 062-432-0685 จํานวน 1 เครื่อง 6.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นกาเล็คซีโน้ต เบอร์โทร 062-432-0685 สีดํา จํานวน 1 เครื่อง 7.สร้อยคอรูปพรรณ 3 บาท 8.ตั๋วโรงรับจำนำ จำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาทั้ง 2 คน ในความผิดฐาน “ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ผ้าคลุมศีรษะและใบหน้าเพื่อไม่ให้ เพื่อไม่ให้เห็นหรือจําหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทําความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม”

โดยผู้ต้องหาอ้างว่า สาเหตุที่ทำไปเพราะต้องการเงินมาใช้จ่าย ส่วนปืนที่ใช่ก่อเหตุ ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นอาวุธปืนปลอมและโยนทิ้งไปแล้วหลังก่อนเหตุ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งครุ ดําเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติอาชญากร พบว่านายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 1 เคยมีประวัติคดี การโทรมหญิง เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2547 ประวัติการกระทําผิดขับรถขณะเมาสุราเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2552 และประวัติการครอบครองยาบ้า เมื่อปี เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2552

ส่วนนางสาวผกามาศ ผู้ต้องหาที่ 2 มีหมายจับข้อหา รับของโจร และความผิดเกี่ยวกับเอกสาร อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 54/2560 ลงวันที่ 2 มี.ค.2560 พล.ต.อ.จักรทิพย์ มอบเงินสด 401,000 บาท ที่ได้ตรวจมาได่ส่งคืนให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคาร

ต่อมาเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายชัยวัฒน์ มาชี้จุดเกิดเหตุ ที่จอดรถจักรยานยนต์ไว้ด้านข้างของห้าง ก่อนจะเดินเข้าธนาคารเป็นจุดที่สอง แล้วนำปืนไปจี้รปภ.เพื่อชิงปืนพกสั้นของเจ้าหน้าที่

ก่อนกระโดดขึ้นเคาน์เตอร์พนักงานเพื่อชิงเงิน แล้วกลับออกทางเดิมที่เข้ามา ก่อนจะขี่จักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าถนนประชาอุทิศขาเข้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน