จากกรณีที่ เพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ ที่เกิดจากกรณีรถชนกันบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล รามอินทรา-อาจณรงค์ น.ส.ธันยกานต์ สาเจริญ อายุ 26 ปี ได้ขับรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีเทา ไปชนกับรถเก๋งมาสด้า 2 สีแดง โดยมี น.ส.น้ำทิพย์ ทองดี อายุ 33 ปี เป็นผู้ขับ จากนั้น น.ส.ธันยกานต์ ได้เปลี่ยนสถานที่เจรจา โดยอ้างว่ามีธุระเร่งด่วน โดยให้ไปเจรจาที่ลานจอดรถคอนโดของ น.ส.ธันยกานต์ จากนั้น ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิป ที่ น.ส.ธันยกานต์ ได้เข้ามาต่อว่าและทุบรถของ น.ส.น้ำทิพย์ พร้อมกับระบุว่า “มึงรู้ไหมกูเป็นใคร เดี๋ยวมึงเจอกูแน่ ลุงกูเป็นหลานอัยการ” จนทำให้ น.ส.น้ำทิพย์ ไปแจ้งความที่ สน.โชคชัย ข้อหา ดูหมิ่นซึ่งหน้า ทำผู้อื่นตกใจโดยการขู่เข็ญ และขับรถโดยประมาท

 

วันที่ 18 พ.ค. ที่สน.โชคชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ย โดย น.ส.น้ำทิพย์ กล่าวว่า เรื่องรถชนเป็นเรื่องปกติ ถ้าชนแล้วอยู่รอประกันเรื่องคงไม่ใหญ่โตขนาดนี้ แต่น้องเขาไม่อยู่รอ ขับรถออกไปเลย และให้เราขับรถตามไปที่คอนโด พอไปเจรจาที่คอนโดก็กลายเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิป เขาเข้ามาเตะหน้ารถ กระจกพับนิดหนึ่ง แต่รถไม่ได้รับความเสียหาย นอกจากท้ายรถที่โดนชนไปก่อนหน้านี้ ส่วนเหตุการณ์ ณ ตอนนั้น อย่าใช้คำว่าโต้เถียง เพราะตนไม่ได้พูดอะไรเลย เป็นอีกฝ่ายพูดมากกว่า ตอนเขามาเปิดประตูรถ ตนรู้สึกตกใจมาก โชคดีที่เจ้าหน้าของบริษัทประกันมาห้ามไว้ ถ้าไม่ห้ามไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ตนจึงมาแจ้งความไว้ 3 ข้อหาดังกล่าว

“ส่วนที่ทางฝ่ายนั้นมีการด่าทอและอ้างลุงเป็นอัยการ ยืนยันว่าได้ยินตามนั้น เริ่มแรกที่เขาอารมณ์ขึ้น ได้เข้ามาด่าด้วยคำหยาบคาย และบอกว่า มึงรู้จักกูน้อยไป มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร ลุงกูเป็นอัยการ ชั่วโมงนั้นตนก็โมโห แต่ไปอยู่ในพื้นที่ของเขาเลยไม่ได้มีปากเสียง และมีเจ้าหน้าที่ประกันมาห้ามไว้

ด้าน น.ส.ธันยกานต์ กล่าวว่า น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดมากกว่า เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ ถามตนว่าจะยอมรับผิดไหม ตนก็บอกว่าถ้าไม่ยอมรับผิดเรื่องจะผ่านกระบวนการอัยการไปสู่ศาล ไม่ได้พูดว่าลุงเป็นอัยการ ไม่ได้แแอบอ้าง ตนไม่ได้พยายามจะหนี ยอมรับผิดแล้วว่าไปชนท้ายรถเขา ตนได้เอาบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพ์ไปให้ ที่รีบเพราะต้องมาพาแม่ไปทำธุระที่ต่างจังหวัด ขอให้ย้ายสถานที่เจรจาไปที่คอนโดของตนได้หรือไม่ ตนก็รู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าจะต้องอยู่ที่เกิดเหตุ ส่วนที่มีการเสนอว่า พนักงานคอนโดบอกว่าตนขึ้นไปนอนนั้น ไม่เป็นความจริง ตนแค่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะออกไปทำธุระต่อ

“หนูไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ได้เมา มีสติ แค่รู้สึกว่าคุยกันไม่รู้เรื่องไม่ลงตัว ไม่ใช่เรารู้ตัวว่าเราผิดแล้วเราจะไปด่าเขา มันต้องมีที่มาที่ไปแต่ไม่อยากพูดเยอะ หนูก็ยอมรับผิดอยากให้จบตรงนี้ดีกว่า หนูเข้าใจพี่เขานะ ว่าทำไมเราไม่รอที่เกิดเหตุ หนูไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ว่าพี่เขาจะโกรธว่าทำไมหนูไม่รอประกัน หนูยอมรับผิดที่อารมณ์ร้อนไปหน่อย ขอโทษคู่กรณี สำนึกผิดแล้ว อยากฝากโลกโซเชียลเสพข่าว อย่าฟังความข้างเดียว วันนี้ตนก็มาแจ้งมาแถลงแล้ว ขอให้ใช้วิจารณญาณเยอะๆ” น.ส.ธันยกานต์กล่าว

พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 กล่าวว่า กรณีดังกล่าว พนักงานสอบสวนจะทำสำนวนส่งฟ้องน.ส.ธันยกานต์ 3 ข้อหา ได้แก่ ดูหมิ่นซึ่งหน้า จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจโดยการขู่เข็ญ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ส่วนข้อหาขับรถโดยประมาท โทษปรับ 400-1,000 บาท เนื่องจาก น.ส.น้ำทิพย์ ไม่ยอมความ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้น่าจะเป็นความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย ขอฝากประชาชน รถชนเป็นเรื่องต้องใช้สติ และหากเกิดเหตุ ต้องใจเย็นให้อภัยซึ่งกันและกัน

 

 

Posted by แหม่มโพธิ์ดำ on Wednesday, May 17, 2017

คลิปจาก แหม่มโพธิ์ดำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน