เสี่ยร้านอาหารทะเล ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด! หลังลูกถูก 4 คนร้ายควงปืน บุกอุ้มกลางงานบวช ยืนยันไม่รู้จัก-ไม่เคยมีความขัดแย้ง เผยครอบครัวหวาดกลัว ด้านตำรวจเร่งล่าอีก 1

จากกรณีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพและคลิปจำนวนมาก โดยระบุว่า พี่ชายของตนเองโดนคนกลุ่มหนึ่งใช้อาวุธปืนมาขู่และจับตัวไปซ้อม แต่สุดท้ายอ้างว่าเข้าใจผิดและจะจ่ายเงินให้เพื่อจบเรื่อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 4 ราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 11 ก.พ. ที่สน.ตลิ่งชัน นายทวีศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี พ่อของ นายเต้ (ขอสงวนชื่อนามสกุล) อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า จากการสอบถามนายเต้ทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ของวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่นายเต้เดินทางไปช่วยงานบวชเพื่อนที่วัดน้อยใน แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม.

รถกระบะของผู้ก่อเหตุที่ใช้อุ้มลูกชาย เสี่ยร้านอาหารทะเล

รถกระบะของผู้ก่อเหตุที่ใช้อุ้มลูกชาย เสี่ยร้านอาหารทะเล

นายทวีศักดิ์กล่าวต่อว่า จู่ๆ มีกลุ่มผู้ก่อเหตุประมาณ 5 คน ขับรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ รีโว่ สีขาว ทะเบียน 6กผ7701 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดภายในวัด ก่อนที่ทั้งหมดจะชักปืนยิงข่มขู่รวม 3 นัด จากนั้นได้ลากตัวนายเต้ขึ้นรถไป พร้อมทั้งใส่กุญแจมือและนำถุงผ้ามาคลุมศีรษะ โดยไม่ทราบปลายทางว่าไปยังสถานที่แห่งใด

นายทวีศักดิ์กล่าวอีกว่า และลงมือทำร้ายร่างกาย ก่อนที่ 4 ผู้ก่อเหตุจะนำตัวนายเต้ที่มีสภาพใบหน้าบวมปูดเขียวช้ำคล้ายถูกของแข็งตีมาปล่อยไว้ที่สน.ตลิ่งชันในช่วงเย็นวันเดียวกัน พร้อมกับเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ โดยเบื้องต้นให้การอ้างว่า สาเหตุที่ทำไปนั้นเนื่องจากลงมือก่อเหตุผิดตัว

นายทวีศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี พ่อของผู้เสียหาย ให้สัมภาษณ์

นายทวีศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี พ่อของผู้เสียหาย ให้สัมภาษณ์

“ผมขอยืนยันว่าทั้งผมและลูกชาย รวมถึงชาวบ้านในละแวกนั้นต่างไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือขัดแย้งกันแม้แต่อย่างใด จึงเกิดข้อสงสัยว่าต้องเป็นกลุ่มบุคคลแบบไหน และมีดีอะไรจึงกล้ากระทำการอุกอาจลักษณะเช่นนี้ในเขตอภัยทาน นอกจากนี้ กลุ่มผู้ต้องหายังขอไกล่เกลี่ยช่วยเหลือเรื่องทำฟันเพียงแค่ 40,000 บาทเพื่อให้เรื่องจบ แต่ผมไม่ยอมความ เพราะสิ่งที่ทำไปนั้น ถือว่ากระทำการอุกอาจเป็นอย่างมาก” นายทวีศักดิ์กล่าว

นายทวีศักดิ์กล่าวว่า ปกตินายเต้จะประกอบอาชีพขายอาหารทะเลในตลาดสด ซึ่งไม่มีหนี้สินหรือเรื่องขัดแย้งกับผู้ใด ส่วนอาการบาดเจ็บแพทย์ระบุว่า มีแผลช้ำในและใบหน้าแตกคล้ายถูกอาวุธตี ซึ่งขณะนี้ยังรู้สึกขวัญเสีย จึงไม่สามารถเล่าเหตุการณ์ได้ทั้งหมด ส่วนตำรวจก็ยังไม่ให้ข้อมูลที่แน่ชัด นอกจากนี้ ตนพร้อมครอบครัวยังรู้สึกหวาดกลัวว่าคนร้ายอีกรายที่ยังคงหลบหนีอยู่จะกลับมาทำอันตราย

ผู้ต้องหา 4 ราย ที่ตำรวจสามมรถติดตามจับกุมตัวได้แล้ว และยังเหลืออีก 1 ราย

ผู้ต้องหา 4 ราย ที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้แล้ว และยังเหลืออีก 1 ราย

นายทวีศักดิ์กล่าวด้วยว่า ตนไม่เชื่อว่าสิ่งที่คนร้ายกระทำเป็นการจับตัวไปผิดคน เพราะดูจากเหตุการณ์แล้วเหมือนวางแผนกันมาเป็นอย่างดี โดยขณะนี้นายเต้เพิ่งออกจากโรงพยาบาล แต่มีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่และหวาดกลัว เนื่องจากนึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น จึงอยากขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานราชการให้ดำเนินคดีอย่างถูกต้อง และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะเป็นคดีที่น่ากลัว แล้วเงิน 40,000 บาท แค่ค่ารักษาก็ไม่เพียงพออยู่แล้ว จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย คือ นายเอกพล, นายเชิดศักดิ์, นายจตุพร และ นายนิธิกร โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางประกอบด้วยอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อกล็อก ขนาด 9 ม.ม. พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 5 นัด อาวุธปืนสิ่งเทียมกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอก และรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ รีโว่ สีขาว ทะเบียน 6กผ7701 กรุงเทพมหานคร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย และความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังคงเหลือผู้ร่วมก่อเหตุที่ยังคงหลบหนีอีกหนึ่งราย ทราบเพียงชื่อเล่นว่า นายฟาฮิส โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

_____________________________________________

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน