เปิดผลชันสูตรเสี่ยเต็นท์รถ ฆ่ายกครัว 5 ศพ ครอบครัวสุดเศร้าเตรียมรับศพ เพื่อนสนิทเผยเฮียตี๋กู้ยืมเงินไปกว่า 1 ล้าน คาดหมุนเงินไม่ทัน จนเครียดคิดสั้นฆ่าตัวตาย

ฆ่ายกครัว 5 ศพ / กรณีเหตุสลดใจของนายกัณตภณ แป้นวงศ์ หรือเฮียตี๋ อายุ 40 ปี เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสองกัณตภณออโต้ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ที่กินยาฆ่าตัวตายแล้วรมควันพร้อมกับคนในครอบครัวจนเสียชีวิต 5 ศพ คือนายกัณตภณ แป้นวงศ์ หรือเฮียตี๋ อายุ 40 ปี นางสุนิสา แป้นวงศ์ อายุ 60 ปี มารดาเฮียตี๋ น.ส.สุธิพร แป้นวงศ์ อายุ 45 ปี พี่สาวเฮียตี๋ นางยอดขวัญ แป้นวงศ์ อายุ 41 ปี ภรรยา และด.ช.รชฏ แป้นวงศ์ อายุ 13 ลูกชาย พร้อมสุนัขอีก 6 ตัว พันธุ์บีเกิล 2 ตัว ชิชุ 3 ตัว ปอมปอม 1 ตัว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่วัดเขื่อนขันธ์ ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก วันนี้ทางสัปเหร่อของวัดทำพิธีเก็บเถ้ากระดูกของสุนัขทั้ง 6 ตัว ที่เสียชีวิตจากกรณีเสี่ยเต็นท์รถกินยาฆ่าตัวตายแล้วรมควันคนในครอบครัว ซึ่งประกอบไปด้วย ภรรยา แม่ พี่สาว และลูกชาย รวม 5 คน เสียชีวิตอยู่ในห้องนอนเหตุเกิดเมื่อช่วงวานนี้ ซึ่งวันนี้ทางวัดดำเนินการเก็บเถ้ากระดูกแล้ว หลังจากช่วงเย็นวานนี้

น.ส.อัจฉรา พานนาค อายุ 43 ปี ปลัดอำเภอเมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็นพี่สาวของนางยอดขวัญ แป้นวงศ์ ภรรยาเฮียตี๋ นำสุนัขมาทำพิธีเผาศพตามความต้องการของญาติ เพราะทางครอบครัวเฮียตี๋รักสุนัขพวกนี้มาก และเช้านี้ให้สัปเหร่อของวัดเป็นผู้ทำพิธีเก็บเถ้ากระดูกสุนัขทั้งหมด เพื่อโปรยดอกไม้ ใส่น้ำปรุง ตามพิธีกรรมความเชื่อ เพื่อรอให้ทางญาติเดินทางมารับเถ้ากระดูก

ขณะที่ทางวัดทำบุญในวันพระพร้อมเทศนา เพื่อสอนเตือนใจญาติโยมที่มาฟังเทศน์ฟังธรรม เนื่องจากข่าวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปัญหาจากการฆ่าตัวตาย ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสลดหดหู่ใจ จึงสอนเทศนาธรรมให้ญาติโยมรู้จักมีสติยั้งคิด และหาทางออกของปัญหาต่างๆ เพราะที่ผ่านมาทางวัดก็ไม่เคยมีการเผาศพสัตว์เลี้ยงจำนวนมากในคราเดียวถึงขนาดนี้

เบื้องต้นผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามไปยัง น.ส.อัจฉรา พานนาค อายุ 43 ปี ปลัดอำเภอเมืองพิษณุโลก เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า ขณะนี้กำลังจัดเตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อเดินทางไปขอรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเย็นนี้ ซึ่งจะพูดคุยเรื่องกำหนดการวันสวดพระอภิธรรมอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนเรื่องคดีความนั้นจะต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปสาเหตุ หรือแรงจูงใจของการฆ่าตัวตายในครั้งนี้อีกครั้ง ซึ่งทุกคนยังอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ ไม่พร้อมที่จะพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนเรียกสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วจำนวน 3 ปาก ซึ่งก็ได้ข้อมูลมามากพอสมควร ว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิตนั้นไปกู้เงินจากธนาคารใดบ้าง

ส่วนเงินกู้นอกระบบนั้นก็เป็นกลุ่มของเพื่อนฝูงที่รู้จักกันจำนวนรวมมากกว่า 10 ล้านบาท มีการเสียดอกเบี้ยต่อเดือนถึงหลักแสน จึงอาจจะทำให้หมุนเงินทางธุรกิจหลายอย่างที่เพิ่งลงทุนไปไม่ทัน อาทิ เต็นท์รถยนต์มือสอง สถานตรวจสภาพรถเอกชน ร้านกาแฟ ธุรกิจส่งน้ำแข็ง เป็นต้น จึงมุ่งไปที่ประเด็นการฆ่าตัวตายจากปัญหาหนี้สิน

ส่วนผลชันสูตรของแพทย์ระบุว่า ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมดสูดดมสารพิษเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มาก ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เสียชีวิตตามธรรมชาติ ทั่วไปแผ่นหลังจะมีเลือดตกสีดำคล้ำ แต่ถ้ามีสารพิษเข้าสู่ร่างกายที่แผ่นหลังจะมีเลือดตกเป็นสีแดงสด จึงสอดคล้องกับหลักฐานทางนิติเวชในที่เกิดเหตุ

ส่วนเพื่อนสนิทของเฮียตี๋ที่ประกอบธุรกิจเต็นท์รถยนต์มือสอง เปิดเผยว่า ธุรกิจเต็นท์รถยนต์มือสองของเฮียตี๋ถือว่าเข้าขั้นขายดีมาก เพราะแต่ก่อนเดือนหนึ่งจะขายได้ถึง 10-20 คัน เลยทีเดียว

แต่มาระยะหลังนั้นเศรษฐกิจไม่ค่อยดีเริ่มขายยากขึ้น แต่เฮียตี๋ก็พยายามที่จะขายรถในเต็นท์ของตนให้กับเต็นท์รถของเพื่อนฝูง ซึ่งขายในราคาถูกเพราะต้องการที่จะดันรถยนต์ออกจากเต็นท์ให้ได้ไว เพื่อที่จะเอาเงินไปหมุนจ่ายเงินที่กู้ยืมมา แต่ก็เพิ่งมาทราบว่ามีหนี้สินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ที่ผ่านมาไม่เห็นความเครียดของเฮียตี๋ เพราะไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟัง แต่จะเป็นคนชอบช่วยเหลือคนรอบข้างเสมอ นิสัยดีและร่าเริงไม่คาดคิดว่าจะมาคิดสั้นฆ่าตัวตายยกครัวแบบนี้

นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนสนิทอีกรายที่ได้ให้เฮียตี๋กู้ยืมเงินไป เปิดเผยว่า เฮียตี๋กู้ยืมเงินไปจำนวนกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เพียงพอหมุนเงินในการทำธุรกิจ จึงมาขอกู้ยืมเงินไปอีกจำนวน 180,000 บาท ซึ่งตนก็ยินยอมให้กู้เพราะเฮียตี๋เครดิตดี มักจะส่งดอกเบี้ยตรงเวลาประจำ แต่ระยะหลังอาจจะหมุนเงินไม่ทัน จึงทำให้เกิดความเครียดหาทางออกปัญหาไม่ได้ คิดสั้นฆ่าตัวตายขึ้นดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน