เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 พ.ค. ที่สน.ราษฎร์บูรณะ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พ.ต.อ.ศุภรกฤษฎิ์ ประชากิตติกุล รองผบก.น.8 พร้อมด้วยพ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ และ พ.ต.ท.ธนพล จินตาคม รอง ผกก.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ

ร่วมกันจับกุม นายนนทนันท์ หรือเทค จุ่นวาที อายุ 28 ปี นายอาทิตย์ หรืออาร์ท ศักดิ์ขจรชัย อายุ 24 ปี นายน๊อต (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และ นายตี๋ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร พร้อมของกลาง รถบรรทุก 6 ล้อ ติดตั้งอุปกรณ์ทำความเย็น ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 62-2230 กรุงเทพมหานคร 1 คัน และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อต่างๆ ขนาดความจุกระบอกสูบ 100-300 ซีซี ซึ่งได้มาจากการโจรกรรม จำนวน 24 คัน โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่ร้านรับซื้อขายรถจักรยานยนต์มือสอง ไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ซอยสุขสวัสดิ์ 30 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ

พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ขยายผลมาจากผลงานฝ่ายสืบสวนสน.สมเด็จเจ้าพระยา สามารถจับกุมผู้ต้องหาแก๊งลักรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คน พร้อมของกลางกว่า 20 คัน ได้เมื่อวันเสาร์ที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยชุดทำงานของ พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล รอง ผกก.สส.บก.น.8 และ พ.ต.ท.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ สว.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ สืบทราบว่านายนนทนันท์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเปิดร้านรับซื้อขายรถจักรยานยนต์มือสองอยู่ในซอยสุขสวัสดิ์ 30 เป็นผู้รับซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางบางส่วน มาจากแก๊งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมาได้ก่อนหน้านี้ จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตพฤติกรรมที่หน้าร้าน

จนพบพิรุธว่านายนนทนันท์ มักจะสั่งการให้ลูกน้องช่วยกันขนรถจักรยานยนต์บางส่วนจากในร้าน ไปเก็บไว้บนรถบรรทุก 6 ล้อติดตั้งอุปกรณ์ทำความเย็น ที่ยึดได้เป็นของกลาง ก่อนจะเคลื่อนรถบรรทุก 6 ล้อไปจอดตามลานโล่งไกลๆ ร้านตัวเองในช่วงเวลากลางวัน พอตกดึกร้านปิดจึงย้อนไปนำรถบรรทุกมาจอดไว้หน้าร้าน

ผบช.น. กล่าวต่อว่า กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายนนทนันท์ สั่งการให้ นายอาทิตย์ นายน๊อต และ นายตี๋ ซึ่งเป็นลูกจ้างในร้านช่วยกันยกรถจักรยานยนต์นับสิบคัน ขึ้นไปไว้บนรถบรรทุก 6 ล้ออย่างน่าสงสัย ชุดจับกุมจึงรีบแสดงตัวเข้าทำการขอตรวจค้น ปรากฏว่านายนนทนันท์ ไม่สามารถแสดงเอกสารการครอบครองรถได้ จำนวน 24 คัน หนำซ้ำจากการตรวจสอบรถบางคันยังพบมีประวัติถูกโจรกรรมมาจากพื้นที่ สน.บางซื่อ สน.ประชาชื่น และสน.สุทธิสาร จึงควบคุมตัวนายนนทนันท์ พร้อมลูกน้อง 3 คน และตรวจยึดของกลางทั้งหมดมาสอบสวนที่ สน.ราษฎร์บูรณะ

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวน นายนนทนันท์ให้การว่า เปิดทำธุรกิจรับซื้อขายรถจักรยานยนต์มือสองทุกชนิด ควบคู่ไปกับการเปิดบริษัทส่งอาหารแช่แข็งและน้ำดื่ม ประเภท ชา กาแฟ น้ำหวานแช่เย็นให้ร้านสะดวกซื้อ จึงทำให้มีรถบรรทุก 6 ล้อติดตั้งอุปกรณ์ทำความเย็นไว้ในความครอบครอง

ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ตำรวจยึดได้ทั้งหมด บางส่วนได้รับซื้อมาจากแก๊งลักรถที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้จริง ในราคาคันละ 5,000-7,000 บาท แต่ส่วนหนึ่งก็รับซื้อมาจากเว็บไซต์ขายรถหลุดจำนำที่มักปล่อยรถให้ลูกค้าตลาดมืดในราคาถูก ก่อนนำมาเก็บไว้เพื่อรอติดต่อลูกค้าขาประจำชื่อ นายเอ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) อายุประมาณ 30 ปี มารับซื้อเอาไปทั้งคันไม่ต้องแยกชิ้นส่วน

โดยนายเอ มักจะให้นำรถไปส่งย่านพุทธมณฑลสาย 1 และพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งจะคิดกำไรแค่คันละ 1,000-3,000 บาท ซึ่งในขณะนี้ก็มีกลุ่มผู้เสียได้ทยอยมารับรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยไปที่สน.ราษฎร์บูรณะในบางส่วน ในส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดต่อหาเจ้าของรถต่อไป

พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบรถทุกคันที่ยึดมาได้ และกำลังให้ฝ่ายสืบสวนเช็คทะเบียนรถ เลขคอรถ และเลขเครื่องยนต์ เพื่อหาที่มาของรถอย่างชัดเจนกับข้อมูลการแจ้งหายว่าถูกโจรกรรมมาจากท้องที่ใดบ้าง ก่อนประสานเจ้าของรถมารับคืนไป ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย จะแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน