“จุรินทร์” ลั่นดำเนินคดีไม่เลือกหน้า ปมที่ปรึกษาพัวพันตุนหน้ากาก วิชัย พูดจบโดนเด้งเลย

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 มี.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีการตื่นตระหนกของประชาชนต่อการระบาดของโรคโควิด-19 และเริ่มกักตุนสินค้าว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญผู้ประกอบการและสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภคมาหารือเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าเป็นอย่างไร และสั่งการปลัดกระทรวงพาณิชย์ประสานข้อมูลกับผู้ผลิต

รวมถึงต้องประสานความร่วมมือทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยปัจจุบันยังไม่มีการจำกัดการซื้อสินค้าจำเป็นบางชนิด เช่น กระดาษทิชชู่ แต่ขอให้ภาคเอกชนรายงานข้อมูลให้ปลัดกระทรวงเพื่อประกอบการตัดสินใจพิจารณาในบางช่วงต่อไป

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เมื่อถามว่าขณะนี้ถึงเวลาที่ประชาชนต้องกักตุนสินค้า นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่อยากเห็นสิ่งดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะจะทำให้สินค้าขาดตลาดในเวลาที่ไม่สมควร เราอยากเห็นการจับจ่ายใช้สอยในภาวะปกติ เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าได้อย่างเพียงพอ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ปรึกษาหญิงของรัฐมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัย นายจุรินทร์ กล่าวว่า ถ้าข้อเท็จจริงปรากฏว่าใครเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดต้องดำเนินการตามกฎหมาย รัฐบาลมีความชัดเจนว่าใครกระทำผิดจะต้องดำเนินการ หากเรื่องไปถึงใคร พนักงานสอบสวนมีหน้าที่ติดตามดำเนินการโดยไม่เลือกหน้า

สำหรับการผลิตหน้ากากอนามัยในปัจจุบัน กระทรวงพาณิชย์ได้ประสานผู้ผลิตทั้ง 11 โรงงานในการปรับเปลี่ยนการผลิต จากการผลิตสินค้าอย่างอื่นให้มาเพิ่มการผลิตหน้ากากอนามัยมากขึ้น ตอนนี้ดำเนินการได้แล้วบางส่วน

โดยเพิ่มจากผลิตวันละ 1.2 ล้านชิ้น เป็น 1.76 ล้านชิ้น ทำให้การกระจายหน้ากากคล่องตัวขึ้น สามารถจัดให้กระทรวงสาธารณสุขนำไปกระจายบุคลากรทางการแพทย์ สถานพยาบาลต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ ได้เพิ่มขึ้น จากวันละ 7 แสนชิ้นเป็นวันละ 1 ล้านชิ้น ขณะที่ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ก็สามารถกระจายไปยังร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าปลีกต่างๆ ได้มากขึ้น จากวันละ 5 แสนชิ้นเป็น 7.6 แสนชิ้น

หลังจากนี้จะมีช่องทางจำหน่ายเพิ่มขึ้น ร้านกาแฟอเมซอน ปั๊มน้ำมันบางจาก และกำลังประสานไปรษณีย์ไทยให้จัดจำหน่ายผ่านทางไทยแลนด์โพสต์มาร์ท ในการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ แต่ขอเรียนว่าถึงอย่างไรก็ไม่พอ ถ้าประชาชนจะใช้พร้อมกันทั้งประเทศ แต่จะกระจายให้ดีที่สุดและส่งเสริมให้ประชาชนใช้หน้ากากผ้า และเรากำลังเร่งประสานประเทศต่างๆ ในการนำเข้าวัสดุเพื่อไม่ให้มีปัญหาด้วย

เมื่อถามว่าหน้ากากอนามัยที่ใช้ในประเทศยังไม่เพียงพอ เหตุใดจึงมีการอนุญาตให้ส่งออก นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรามีคำสั่งห้ามอนุญาตส่งออก ยกเว้นได้รับอนุญาต ซึ่งพูดกันชัดเจนแล้วในทางนโยบายว่า ถ้าเป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ประเทศไทยจำเป็นต้องใช้จะไม่อนุญาตให้ส่งออกโดยเด็ดขาด ถ้าประชาชนยังไม่มีใช้ จะอนุญาตให้ส่งออกแล้วจะตอบคำถามประชาชนอย่างไร

แต่ก็มีข้อยกเว้นถ้าเป็นหน้ากากอนามัยที่ประเทศไทยไม่ใช้ เช่น หน้ากากอนามัยที่มีแผ่นหน้ากากใสป้องกันตา และสายคล้องหูแบบเชือกที่หมอไทยไม่ใช้, หน้ากากอนามัยที่ผลิตขึ้นภายใต้ลิขสิทธิ์ของต่างประเทศที่ไม่สามารถขายในประเทศไทย และหน้ากากอนามัยที่ผลิตภายใต้เงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุนที่มีเงื่อนไขผลิตเพื่อการส่งออกเท่านั้น ก็อนุญาตให้ส่งออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างให้สัมภาษณ์ นายจุรินทร์ ได้เชิญนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายในชี้แจงประเด็นหน้ากากอนามัยที่ทางการแพทย์ไทยไม่ใช้แต่มีการส่งออก โดยนายวิชัย ได้นำตัวอย่างหน้ากากอนามัยมาแสดงต่อสื่อมวลชน

ทั้งนี้ เมื่อสื่อมวลชนถามว่ากรณีถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทำให้เสียกำลังใจในการทำงานหรือไม่ นายวิชัย กล่าวว่า “มีบ้าง แต่เพื่อพี่น้องชาวไทย ทุกคนมีความตั้งใจและมุ่งมั่นตลอด ไม่ว่าใครจะมีข้อสงสัยหรือมีคำถาม เรามีหน้าที่ชี้แจง และทำให้เห็นความมุ่งมั่นในการทำงานจะค่อยๆ คลี่คลายปัญหาไปได้ เขามีสิทธิ์ตั้งคำถาม เราก็มีสิทธิ์อธิบาย และขอให้ฟังเหตุและผลเชื่อว่าทุกอย่างจะไปได้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการให้สัมภาษณ์นายวิชัย เสร็จสิ้นไม่ถึงชั่วโมง ได้มีการเผยแพร่คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 80/2563 เรื่อง ให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เนื้อหาสรุปว่า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการบริหารจัดการของรัฐบาลภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย กรณีมีประเด็นทางสังคมเกี่ยวกับการกักตุนหน้ากากอนามัย ซึ่งสมควรมีการตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน ตลอดจนเกิดประโยชน์สูงสุดแก่การบริหารราชการของกรมการค้าภายใน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11(3) และ (4)แห่งพ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ. 2534

นายกฯจึงมีคำสั่งให้ นายวิชัย โภชนกิจ ตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ มาปฏิบัติราชการสำนักนายกฯ โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม จนกว่าจะมีการตรวจสอบแล้วหรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยระหว่างการปฏิบัติราชการสำนักนายกฯ ให้ปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการตรวจราชการโดยอยู่ในกำกับดูแลของปลัดสำนักนายกฯ อันหนึ่ง เพื่อให้การบริหารราชการของกรมการค้าภายในเป็นไปอย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพให้กระทรวงพาณิชย์ พิจารณาแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนต่อไปทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ลงนามโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ วันที่ 15 มี.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน