กรณี น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย อายุ 22 ปี หรือ แอ๋ม สาวคาราโอเกะแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น ซึ่งถูก น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว อายุ 24 ปี น.ส.กวิตา หรือเอิร์น ราชดา อายุ 25 ปี น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ สัตยบัณฑิต อายุ 28 ปี และ นายวศิน หรือ นิว นามพรหม อายุ 22 ปี ร่วมกันลวงมาทำร้ายและลงมือสังหารก่อนอำพรางศพด้วยการฝังดิน รวมทั้ง น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ พรหมคุณ อายุ 21 ปี ที่เข้ามาเกี่ยวข้องเพราะเป็นผู้นำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปขายต่อซึ่งแม้ทั้งหมดจะถูกจับกุมและส่งเข้าเรือนจำกลางขอนแก่นไปแล้ว แต่ยังมีบางประเด็นที่น่าสงสัยทั้งเรื่องความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มฆาตกรกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติและบางเรื่องที่มีผลกระทบต่อสังคมรวมทั้งผลกรรมของกลุ่มต้องหาว่าจะถูกประหารตามกระแสสังคมหรือไม่

วันที่ 9 มิ.ย. นายนพดล สีดาทัน ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจาก น.ส.สายรุ้ง กลิ่นจุ้ย อายุ 42 ปี มารดาของ น.ส.วริศรา หรือแอ๋ม เหยื่อในคดี ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดขอนแก่นในคดีละเมิด เรียกค่าเสียหายโดยเกี่ยวเนื่องจากคดีอาญา ในกรณีที่ “น้องแอ๋ม” ถูกผู้ต้องหาดังกล่าวร่วมกันฆ่าเสียชีวิตโดยการไตร่ตรองไว้ก่อนตามมาตรา 288 และ มาตรา 289 ตนต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายทางด้านละเมิด ซึ่งเป็นเรื่องสินไหมทดแทนในการเจ็บป่วยชีวิตร่างกาย เจ็บป่วยจิตใจ ที่ได้สูญเสีย “น้องแอ๋ม”

นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการปลงศพ ทำบุญตามประเพณี ค่าไร้อุประการะที่ผู้ตายทำงานเป็นพริตตี้และนางแบบได้ส่งเงินให้แม่เดือนละ 20,000 บาท พร้อมกับย่าที่อยู่ จ.ชัยนาทเดือนละ 10,000 บาท จึงต้องฟ้องละเมิดเรียกค่าเลี้ยงดูประมาณ 30 ปี ซึ่งเป็นเงินประมาณ 10 ล้านบาทขึ้นไป ถือเป็นคดีแพ่งต่อเนื่องคดีอาญา ศาลจึงสั่งการว่าให้ทนายไปรวบรวมเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน มาพร้อมในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ เพื่อทำการไต่สวนให้ศาลออกคำสั่งอายัดทรัพย์สินผู้ต้องหาทั้งหมดไว้ก่อน เพราะกลัวว่าจะไปจะไปยักย้ายถ่ายเท

นายนพดล กล่าวว่า จำเลยที่จะฟ้องศาลขอนแก่น คือ 1.น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว 2.น.ส.กวิตา หรือ เอิร์น 3.น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ 4.นายวศิน หรือ นิว และ 5. น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ โดยจะยื่นฟ้องขอไต่สวนอนาถาให้กับแม่ของ “น้องแอ๋ม” โดยเสียค่าธรรมเนียม 200,000 บาท ซึ่งตนจะขอยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวในการขึ้นศาล และจะขอไต่สวนสืบทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งหมด และขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดไปยังทรัพย์สินของบุคคลต่างๆที่เป็นจำเลย ส่วนในด้านคดี บช.ภ.4 ได้ทำงานอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพมากเมื่อพบศพ “น้องแอ๋ม”วันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งออกหมายจับได้ และติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ถึง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ภายใน 12 วัน จนนำผู้ต้องหาทั้งหมดฝากขังผัดแรก 12 วันที่ศาลจังหวัด และนำมาควบคุมที่เรือนจำกลางขอนแก่น

“จากการสอบถามและหาข้อมูลในคดีดังกล่าว ได้พบว่าทางการสอบสวนยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกส่วนหนึ่ง โดยทางทนายความตั้งประเด็นว่าเป็นคนที่รู้เห็นการฆ่าน้องแอ๋ม มีการร่วมไตร่ตรองไว้ก่อนไหม เพราะมีการเช่ารถล่วงหน้าก่อนไปก่อเหตุรับผู้ตาย มีโทรศัพท์ไปหาผู้ตายโดยนัดหมายมาพบยังจุดที่วางแผนไว้ จากนั้นใช้อุบายหลอกล่อเอาผู้ตายขึ้นรถมาฆ่าดังกล่าว ซึ่งจะมีใครเกี่ยวข้องบ้างทางการสอบสวนต้องดำเนินการเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ส่วนผู้ต้องหา 5 คน ให้การรับสารภาพพร้อมนำชี้ที่เกิดเหตุ และตกเป็นผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำกลางขอนแก่นทั้งหมด ดังนั้นผู้ต้องหาจะสู้ในด้านคดีให้หนีโทษประหาร ซึ่งจะสู้ว่าไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน โดยบอกว่ามีการตีกันบนรถ ทำให้ผู้ต้องหาพลั้งเผลอฆ่าผู้ตายดังกล่าว” นายนพดล กล่าว

นายนพดล กล่าวอีกว่า คดีที่ผู้ต้องหา 5 ราย ก่อคดีฆ่าน้องแอ๋ม ถือว่าเป็นคดีอาญาต่อแผ่นดิน ทำให้แม่ของผู้ตายสามารถเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่นในคดี ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลอบฝัง ซ่อนเร้นหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์หรือรับของโจร เมื่ออัยการฟ้องศาลไปแล้ว เพราะขณะนี้คดียังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน สภ.เขาสวนกวาง ดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน