‘หมอเสริฐ’ มหาเศรษฐีอันดับ 11 ของไทย ตอบรับช่วยเหลือนายกฯ พร้อมออกเงิน100 ล้านขุดบ่อน้ำแก้วิกฤตภัยแล้งที่สุโขทัย หลังโควิดคลี่คลาย

นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ อดีตประธานคณะผู้บริหาร และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ประธานกรรม การบริหาร และกรรมการบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด ในฐานะผู้สร้างความมั่งคั่งจากการเป็นเจ้าของ ผู้ก่อตั้งสายการบิน บางกอก แอร์เวย์ส และผู้ถือหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ในเครือ กรุงเทพดุสิตเวชการ ที่มีโรงพยาบาลในสังกัดราว 43 แห่ง

นพ.ปราเสริฐ หรือ หมอเสริฐ กล่าวในฐานะมหาเศรษฐีไทยอันดับที่ 11 ซึ่งได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสาร ฟอร์บส์ ล่าสุดเมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 84,900 ล้านบาท หล่นจากอันดับที่ 7 ในปี 2562 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 108,000 ล้านบาทว่า

นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ

รับทราบจากสื่อมวลชนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยากขอความเห็น และความร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชนช่วงไวรัสโควิด-19 ยังระบาดต่อเนื่อง ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการเยียวยา และดูแลผลกระทบของประชาชนจากการแพร่ระบาดของไวรัสตัวนี้ไปค่อนข้างมาก และได้ผลดีในระดับหนึ่งแล้ว

หมอเสริฐ กล่าวว่า ตนในฐานะที่มีความพร้อมด้านการบิน และการแพทย์ ก็ได้ให้ความช่วยเหลือแก่แพทย์สภา และกระทรวงสาธารณสุข ในการนำเครื่องบินไปรับส่งบุคคลากรทางการแพทย์จำนวนมากเพื่อเดินทางไปรักษาคนไข้ติดเชื้อในจังหวัดต่างๆโดยเฉพาะที่ภูเก็ต และส่วนอื่นๆของประเทศ พร้อมกับเข้าไปช่วยให้การศึกษาแก่ผู้คนในการระมัดระวังการติดเชื้อไวรัสจนประสบความสำเร็จในหลายจังหวัด

“หากแพทย์สภาและกระทรวงสาธาณสุขต้องการให้ช่วยเรื่องใด ผมพร้อมช่วยเหลือทันทีอยู่แล้ว ส่วนที่นอกเหนือจากสิ่งที่ทำไปแล้วก็คือ เรื่องที่นายกรัฐมนตรีร้องขอมา ผมคิดว่าปัญหาที่ประเทศไทยเราจะต้องพบเจออีกต่อจากโควิด-19 คือ ปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้ ผมจึงอยากจะช่วยรัฐบาลในเรื่องนี้ โดยเฉพาะที่จังหวัดสุโขทัย”หมอเสริฐกล่าว

หมอเสริฐ กล่าวว่า เหตุที่ต้องเป็นจังหวัดสุโขทัยเพราะใต้ดินมีน้ำจำนวนมาก ที่สามารถนำมาใช้เพื่อการเกษตรกรรมได้ เดิมทีสุโขทัย และจังหวัดใกล้เคียง ใช้น้ำจากแก่งเสือเต้นซึ่งเป็นที่รวมของแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน เมื่อรัฐบาลไม่ให้ใช้แก่งเสือเต้น น้ำที่หลากมาในยามฤดูฝนก็จะไหลผ่านเมืองลงทะเลไปไม่สามารถเก็บกักมาใช้ทำประโยช์ได้เลยในหน้าแล้ง ไปดูตอนนี้ก็ได้ว่า แม่น้ำยมสามารถเดินข้ามไปอีกฝั่งได้ เพราะน้ำแล้งแห้งขอดไปหมด

“ผมอยากจะช่วยออกเงิน ให้รัฐส่งผู้แทนจังหวัดมา มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยจัดหาพื้นที่ที่มีความเหมาะสม และไม่ทำให้เจ้าของที่ดินเดิมเดือดร้อน พร้อมทหารช่าง รวมถึงอาจจะจ้างทหารที่เกษียณราชการแล้ว แต่ยังมีกำลังวังชาอยู่ มาช่วยกันขุดบ่อน้ำเล็กๆให้ชาวบ้าน มีน้ำไว้ใช้ ถ้าเราช่วยกันคนละไม้คนละมือ เราอาจใช้เวลาขุดบ่อน้ำให้ชาวบ้านไว้เลี้ยงปลา และทำนาปรังได้ภายในเวลาเพียง 10 วันเท่านั้น” หมอเสริฐกล่าว

หมอเสริฐ กล่าวต่อว่า ตนมีเครื่องมือและรถแบคโฮในการก่อสร้างที่ทิ้งไว้เฉยๆ โดยไม่ได้ทำอะไรอยู่มาก สามารถนำมาใช้เพื่อการนี้ได้ ผมตั้งงบไว้ประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อขุดน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ แต่กรณีนี้ ต้องให้รัฐบาลยินยอมที่จะให้มีการขุดน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ด้วย เมื่อแต่ละจังหวัดมีน้ำใช้เพียงพอ เกษตรกรก็สามารถจะจับปลาไปขาย และมีน้ำไว้ทำนาปรัง เชื่อว่า ปีหน้า ราคาข้าวน่าจะสูงขึ้น เพราะปีนี้น้ำแล้ง ปลูกข้าวไม่ค่อยได้

“ผมคิดว่าเป็นประโยชน์กว่าการเอาเงินไปให้รัฐบาล หรือโรงพยาบาลซึ่งผู้มีความสามารถหลายคนก็บริจาคกันไปมากแล้ว แต่การเตรียมการหลังโควิด-19 หยุดแพร่ระบาดยังไม่ได้มีคนคิด ผมจึงคิดว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ที่สำคัญยังสามารถจะขุดลอกแม่น้ำยมให้มีความลึกได้มากกว่านี้ หรือลึกลงไปราว 20 เมตรเพื่อเอาน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้

หรือ อย่างบึงบอระเพ็ด ซึ่งเคยเป็นทะเลสาบใหญ่ของจังหวัดนครสวรรค์ สามารถจะขุดให้ลึกลงไปได้อีกเพื่อนำน้ำใต้ดินมาใช้ และเก็บกักน้ำไว้ในยามน้ำแล้งได้ เมื่อถึงฤดูฝนก็ไม่ต้องปล่อยให้น้ำฝนไหลผ่านลงทะเลไปโดยเปล่าประโยชน์ ”หมอเสริฐกล่าว

หมอเสริฐ กล่าวด้วยว่า สำหรับบ่อเล็กๆที่จะขุดเอาน้ำใต้ดินมาใช้นี้ หากสามารถเชื่อมต่อกันได้ในอนาคตเพื่อให้เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรในพื้นที่ ถ้าปีนี้ไม่ทัน อย่างน้อยปีหน้าจะมีน้ำไว้ให้เกษตรกรและประชาชนใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคได้ อนาคตข้างหน้า น้ำจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ และไม่มีทางที่จะหามาเพิ่มได้ ถ้าไม่ทำที่เก็บกักน้ำไว้ ผมคิดว่า ข้อเสนอของผมน่าจะช่วยรัฐบาลและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้มาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน