หลวงตาผูกคอคากุฏิ อาพาธหนัก โรครุมเร้า บ่นไม่อยากเป็นภาระ

หลวงตาผูกคอคากุฏิ วัดดังย่านท่าพระ ลูกศิษย์เผย อาพาธหนัก โรครุมเร้า เคยบ่นไม่อยากเป็นภาระใคร

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 23 เม.ย. ร.ต.ท.ชัยชิต วงษ์แสนประเสริฐ รอง สว.(สอบสวน) สน.ท่าพระ รับแจ้งเหตุพระผูกคอมรณภาพ ภายในกุฏิหลังวัดประดู่ในทรงธรรม ถนนเพชรเกษม ซอย 15 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม.

จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิครึ่งปูนครึ่งไม่ 2 ชั้น ตั้งอยู่ด้านหลังวัด จากการตรวจสอบในห้องน้ำชั้นบนกุฏิ

พบร่าง พระชิต ชิตธัมโม อายุ 83 ปี สภาพศพนุ่งห่มสบงและอังสะใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกคอตัวเองกับขื่อใกล้ประตูห้องน้ำสันนิษฐานมรณภาพมาแล้วไม่เกิน 2 ชั่วโมง

จากการสอบสวน นายมาโนช กรันกรุง อายุ 49 ปี ชาวบ้านซึ่งใกล้ชิดกับเป็นพระชิต ให้การว่า หลวงตาเป็นพระลูกวัดบวชมาตั้งแต่ พ.ศ.2526 ขณะนี้ก็ 36 พรรษาแล้ว ท่านเป็นที่รักของชาวบ้านและคนทั่วไปเป็นอย่างดี

แต่ระยะหลังหลวงตาป่วยด้วยโรคชราทั้งโรคปอด โรคหัวใจ และดวงตาเป็นต้อ ทำให้ไม่สามารถพูดจากับใครได้เหมือนตามปกติ เพราะหากหลวงตาพูดแล้วจะเกิดอาการเหนื่อยมาก

กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้หลวงตาบ่นให้คนในวัดฟังว่า ไม่อยากอยู่เป็นภาระใครอีกต่อไป โดยตนเห็นหลวงตาครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พอถึงเวลาใกล้ค่ำซึ่งตนจะต้องมาหยอดตาให้หลวงตาก็ปรากฏว่าพบเป็นศพมรณภาพไปแล้ว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนมอบสรีระร่างพระชิต ให้แพทย์นิติเวชทำการผ่าชันสูตรอีกครั้งก่อนประสานญาติพี่น้องให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป