สาวเปิดโปงคดี แม่ปุ๊ก สงสัยวางยาลูก โพสต์รับบริจาค เผยปมผิดสังเกต จนตัวเองถูกแจ้งความ ก่อนกองปราบมาดูคดี ระบุคนส่งข้อมูลให้เพียบ

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.นิษฐา หรือ แม่ปุ๊ก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง กทม. เนื่องจากมีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้ลูกชายวัย 2 ขวบ ซึ่งเป็นลูกแท้ ๆ และเด็กหญิงวัย 4 ขวบ บุตรบุญธรรม ล้มป่วยด้วยอาการผิดปกติ เพื่อสร้างเรื่องให้ดูน่าสงสารในการหลอกเอาเงินจากคนอื่น จนทำให้บุตรบุญธรรมเสียชีวิต ส่วนลูกชายต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 พ.ค. น.ส.เบญ (นามสมมุติ) ผู้เปิดโปงการวางยาลูกของแม่ปุ๊ก เปิดเผยว่า รู้จักแม่ปุ๊กผ่านทางเฟซบุ๊ก เพราะมีคนมาโพสต์เรื่องราวในเพจแม่และเด็ก ถึงเรื่องว่าน้องอมยิ้มป่วยไม่สบาย ตั้งแต่กลางปี 2561 จากโรคประหลาด เป็นโรคที่หายาก และค่ารักษาพยาบาลแพงมาก จึงต้องเปิดรับบริจาค

น.ส.เบญ กล่าวต่อว่า ตนได้โอนเงินบริจาคครั้งละ 500-1,000 บาท หรือทุกครั้งที่แม่ปุ๊กขอก็จะโอนเงินให้ตลอด ซึ่งก็มีคนอื่นๆ ให้อีกเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ เพราะอาการของน้องอมยิ้มเป็นอาการที่พบได้น้อยมาก เป็น 1 ในล้าน โดยมีอาการอ้วกเป็นเลือด และอาเจียนบ่อย น้องอมยิ้มต้องเข้าห้องไอซียูบ่อย ตนเห็นแล้วก็สงสาร จึงช่วยเหลือ

สาวเปิดโปงคดี แม่ปุ๊ก สงสัยวางยาลูก ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

สาวเปิดโปงคดี แม่ปุ๊ก สงสัยวางยาลูก ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

น.ส.เบญ กล่าวอีกว่า กระทั่งน้องอมยิ้มเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 ส.ค.2562 ตนได้เดินทางไปร่วมงานศพ และเริ่มสงสัยว่าในรูปน้องอมยิ้ม ไม่มีชื่อ ไม่มีวันเกิดและวันเสียชีวิต มีแต่รูปเฉยๆ รวมถึงสาเหตุการเสียชีวิต แต่ตนก็ไม่กล้าถามเพราะแม่ปุ๊กยังอยู่ในอาการเสียใจ

น.ส.เบญ กล่าวว่า หลังจากน้องอมยิ้มเสียไม่กี่เดือน ประมาณวันที่ 10 ม.ค.2563 แม่ปุ๊กได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “เกิดเรื่องช็อกน้องอิ่มบุญอ้วกเป็นเลือด ต้องเข้ารพ.กะทันหัน ต้องเข้าห้องไอซียู เมื่อหมอตรวจสอบพบว่าเป็นโรคเดียวกับน้องอมยิ้ม และมีอาการอ้วกเป็นเลือดเหมือนกัน” ตนก็เริ่มสงสัยแล้ว เพราะเคยเห็นน้องอิ่มบุญในงานศพน้องอมยิ้ม ก็ดูแข็งแรงดี ไม่น่าจะป่วยได้

ตนเริ่มสงสัยว่าทำไมถึงเป็นโรคเดียวกันซ้ำสอง ทั้งที่หมอบอกว่าเป็นหนึ่งในล้าน ตนจึงโพสต์เฟซบุ๊กกว้างๆ ว่า “มีคนเอาลูกป่วยมาหากิน” แล้วจู่ๆ คนที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับแม่ปุ๊ก ก็มาขอเพิ่มตนเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก สอบถามว่าแม่ปุ๊กเป็นยังไง และได้เอาข้อมูลที่เคยสั่งของจากแม่ปุ๊ก แต่ไม่ได้รับของมาให้ดู ซึ่งหลังจากที่สั่งของไปแล้ว แม่ปุ๊กก็ปิดเฟซบุ๊กหนี

น.ส.เบญ กล่าวว่า ตนยังนำข้อมูลจากคนที่เคยพบในงานศพน้องอมยิ้ม ซึ่งบอกกับตนว่าแม่ปุ๊กน่าจะเป็นมิจฉาชีพ เพราะเคยสั่งของไปแต่ไม่ได้รับของ และมีลูกค้าถูกโกงค้าหน้ากากอนามัยเป็นหลักแสนบาท รวมถึงสั่งซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิก็ได้ อีกทั้งยังเคยถูกโพสต์ในเพจแม่และเด็ก ว่าโกงค่านมเด็กป่วยด้วย

และยังเคยเปลี่ยนชื่อนามสกุลมาประมาณ 6 ครั้ง ทำให้ตนยิ่งสงสัยแล้วลองปะติดปะต่อเรื่องว่า แม่ปุ๊กน่าจะวางยาลูก ตนจึงโพสต์ข้อความลอยๆ อีกครั้งว่า “วางยาลูก” โดยไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่เพื่อนเขามาเห็น แล้วแม่ปุ๊กก็ได้ไปแจ้งความว่าตนหมิ่นประมาทไว้ที่ สน.ดอนเมือง

“เมื่อดิฉันโพสต์ข้อความนั้น จึงกลายเป็นประเด็นขึ้นมา ทางกองปราบจึงเข้ามาดูคดี ตรวจสอบเส้นทางการรับบริจาคเงินของน้องอมยิ้ม บัญชีที่รับบริจาคมีชื่อ เอ็ม อัจฉณา เขาก็บอกกับกองปราบว่าเป็นแม่ตัวจริงของน้องอมยิ้ม ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโกง แต่เปิดบัญชีไว้ให้น้องอมยิ้ม ซึ่งเอ็ม อัจฉณา มีลูกทั้งหมด 3 คน คนโตคือน้องอมยิ้ม แม่ปุ๊กขอเลี้ยงตั้งแต่อายุได้ 4 วัน คนที่ 2 ได้ให้คนที่จ.ชลบุรีไปเลี้ยง ส่วนคนที่ 3 ได้ให้ยายไปเลี้ยง ซึ่งเอ็ม อัจฉณาอ้างกับตำรวจว่าไม่รู้ว่าลูกตัวเองเสีย” น.ส.เบญ กล่าว

น.ส.เบญ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบของตำรวจ พบสารเคมีในร่างกายน้องอิ่มบุญ มีส่วนประกอบในน้ำยาล้างห้องน้ำ แต่ในส่วนของน้องอมยิ้ม ตนไม่รู้ พบแต่เพียงแผลอักเสบในท้อง แล้วก็ในหลอดอาหาร ตนสงสัยว่าทำไมเด็กทั้ง 2 คนถึงมีอาการคล้ายกันแบบนี้ และเขาก็ไม่พยายามเปลี่ยนโรงพยาบาล แต่ในตอนนี้น้องอิ่มบุญปลอดภัยแล้ว ส่วนแม่ปุ๊กปฏิเสธทุกข้อหา รับเพียงข้อหาฉ้อโกงเท่านั้น ถ้าแม่ปุ๊กทำแบบนี้จริงๆ เขาไม่น่าเอาชีวิตคนมาเป็นเครื่องมือหาเงินแบบนี้

______________________________________________

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน