เพิ่มข้อหาค้ามนุษย์ ‘แม่ปุ๊ก’ คาดมีคนใกล้ชิดรู้เห็นวางยาลูก พบเส้นทางการเงินไม่สอดคล้องค่ารักษา เผยหากมีหลักฐานว่า มีคนอื่นเกี่ยวข้องจะเอาผิดด้วย
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. จับกุม น.ส.นิษฐา วงวาล หรือ แม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี ที่บ้านพักย่านดอนเมือง เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ในฐานะผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ฉ้อโกงประชาชน”
เนื่องจากพบพฤติกรรมต้องสงสัยทำให้ด.ช.อิ่มบุญ อายุ 2 ขวบ ลูกแท้ๆ และด.ญ.อมยิ้ม อายุ 4 ขวบ ลูกบุญธรรม ล้มป่วยด้วยอาการผิดปกติ แล้วหลอกเอาเงินจากคนอื่น จนทำให้ด.ญ.อมยิ้มเสียชีวิต ส่วนด.ช.อิ่มบุญ ตรวจพบสารเคมีฤทธิ์ออกฤทธิ์เป็นกรด คล้ายส่วนผสมน้ำยาล้างห้องน้ำ ในร่างกาย ตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป.พร้อม พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา รอง ผกก.4 บก.ป. และ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม รอง ผกก.4 บก.ป. ร่วมแถลงกรณีตำรวจ กก.4 บก.ป.จับกุม น.ส.นิษฐา วงวาล หรือ แม่ปุ๊ก
ข้อหา “รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ฉ้อโกงประชาชน” และจะแจ้งข้อหาค้ามนุษย์กับน.ส.นิษฐา เพิ่มอีก 1 ข้อหา
เพิ่มข้อหาค้ามนุษย์ ‘แม่ปุ๊ก’
หลังก่อเหตุหลอกลวงชาวเน็ตให้สั่งซื้อสินค้าต่างๆ ผ่านเฟซบุ๊ก อ้างว่าต้องการนำเงินไปรักษาน้องอมยิ้ม อายุ 4 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคประหลาด ก่อนเสียชีวิตในเดือนสิงหาคมปี 2562 ต่อมา แม่ปุ๊กอ้างว่าน้องอิ่มบุญ อายุ 2 ขวบ ลูกชายคนเล็กป่วยแบบเดียวกัน แต่เมื่อแพทย์ตรวจสอบอาการเด็กแล้วพบพิรุธว่า เด็กอาจถูกสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนทำลายร่างกาย ขณะที่ตัวแม่ปุ๊ก กลับได้เงินช่วยเหลือร่วม 20 ล้านบาท
พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ เปิดเผยว่า กองปราบฯ เริ่มสอบจากกรณีแม่เอม ซึ่งเป็นแม่จริงๆ ของน้องอมยิ้ม ซึ่งโดนหมายเรียกคดีหลอกขายสินค้าออนไลน์ เจ้าตัวจึงเข้ามาชี้แจงว่าถูกแม่ปุ๊ก นำเอกสารส่วนตัวไปใช้เปิดบัญชี อ้างจะนำไปทำประกันสุขภาพให้ลูกๆ ตนเองจึงหลงเชื่อ
ด้านพ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เปิดเผยว่า ข้อมูลทางการแพทย์ระบุโรคประหลาดที่แม่ปุ๊กอ้างว่าลูกทั้ง 2 นั้นป่วยไม่มีอยู่จริง ส่วนอาการเจ็บป่วยของเด็ก มีร่องรอยแผลไหม้ที่ปากนั้น ชัดเจนว่าเป็นการรับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ผ่านการรับประทานเข้าไป ไม่ใช่โรคทางพันธุกรรมตามคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา ซึ่งแพทย์ยืนยันข้อเท็จจริงมาแล้ว
โดยในวันจับกุมผู้ต้องหา ตำรวจนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้าน พบสารเคมีเป็นของเหลวต้องสงสัยบางอย่าง จึงนำส่งตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า เป็นสารออกฤทธิ์ตรงกับที่แพทย์ให้ข้อมูลเรื่องอาการของเด็กหรือไม่
พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนสืบสวนสอบสวน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ยืนยันว่าตำรวจมีหลักฐานน่าเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาได้กระทำผิดจริง และหากมีพยานหลักฐานยืนยันได้ว่า มีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ว่าน.ส.นิษฐาเคยเรียนเภสัชกร ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการนำสารเคมีมาใช้หรือไม่ ก็นับเป็นข้อมูลสำคัญที่กำลังสืบสวนอยู่ ทั้งนี้ พบว่ายอดเงินบริจาคที่ได้รับ ไม่สอดคล้องกับค่ารักษาอาการเด็กอย่างมีนัยสำคัญ แต่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะอาจมีการใช้สิทธิ์เบิกประกันอย่างไรหรือไม่
“ส่วนที่แม่เอม ยกน้องอมยิ้มให้แม่ปุ๊กรับไปดูแล เพราะเจ้าตัวไม่พร้อมจะมีลูก โดยไปรู้จักกันผ่านโซเชียลเท่านั้น แม่ปุ๊กอ้างว่าจบเภสัชกร แม่เอมจึงเชื่อว่าเด็กจะมีอนาคตที่ดีกว่า ทั้งนี้ ฝากว่าการมีลูกในสภาพไม่พร้อมนั้น ยังมีหน่วยงานรัฐที่พร้อมช่วยเหลือ การนำลูกไปยกให้คนอื่นเอง อาจไม่ปลอดภัยต่อสวัสดิภาพของเด็ก อย่างที่ควรจะเป็น และกลายเป็นบ่อเกิดปัญหาสังคม
ขอเตือนด้วยว่า การให้เอกสารส่วนตัวกับคนอื่นนั้นไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด และฝากประชาชนที่ได้รู้เห็นพฤติกรรมใดๆ เกี่ยวข้องกับน้องอิ่มบุญน้องอมยิ้ม ขอให้ติดต่อ กก.4 บก.ป.เพื่อให้ข้อมูลประกอบการทำคดีต่อไป” รอง ผกก.4 บก.ป. กล่าวพิ่มข้อหาค้ามนุษย์ ‘แม่ปุ๊ก’
เพิ่มข้อหาค้ามนุษย์ ‘แม่ปุ๊ก’ /////
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
เปิดแชตลับมัดตัว ‘แม่ปุ๊ก’ สาวแฉวางยาลูกพบพิรุธหน้าศพ ‘น้องอมยิ้ม’
