เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 มิ.ย. ร.ต.อ.บรรยงค์ เรืองแดง รอง สว.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุมีชาวต่างชาติเสียชีวิตด้วยการรมแก๊สไม่ทราบชนิดเสียชีวิต ภายในห้องเลขที่ 305/124 ชั้นที่ 8 ของแมนชั่นแห่งหนึ่ง ในซอยรัชดา 32 แขวงจันทรเกษม เขตจัตุจักร กทม. จึงเดินทางไปร่วมตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวชรพ.ตำรวจ และอาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นแมนชั่นให้เช่าพักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวนหลายตึกติดต่อกัน จากการตรวจสอบภายในห้องที่ 350/124 ชั้น 8 อาคาร 3 พบศพนายฟิลิป บราวน์ อายุ 71 ปี ชาวอังกฤษ ไม่สวมเสื้อใส่เพียงกางเกงใน นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง บริเวณศีรษะพบถุงพลาสติกคลุมอยู่ มีสายแก๊สต่อเข้าไปในถุงอีกด้านเชื่อมต่อกับถังแก๊สสีเขียว ซึ่งคาดว่าเป็นไนโตรเจนวางไว้อยู่ข้างตัวด้านซ้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน ตรวจสอบภายในห้องไม่พบสิ่งผิดปกติ มีการเปิดเครื่องปรับอากาศทิ้งไว้และประตูถูกล็อคจากด้านใน

จากการสอบถามน.ส.อุบล วอนวงษ์ อายุ 30 ปี แม่บ้านที่ดูแลอาคาร กล่าวว่า ขณะที่ตนขึ้นไปเคาะห้องดังกล่าวเพื่อจะทำความสะอาด แต่เคาะห้องหลายครั้งแต่ไม่มีคนตอบ ก่อนจะได้กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งออกมาจากนอกห้อง จึงคิดว่าน่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น จึงรีบแจ้งผู้จัดการและติดต่อเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบ

ร.ต.อ.บรรยงค์ เปิดเผยว่า จากการสันนิษฐานคาดว่าผู้ตายน่าจะฆ่าตัวตาย เนื่องจากสภาพห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือการรื้อค้น นอกจากนี้ เครื่องปรับอากาศภายในห้องก็ยังเปิดทิ้งไว้ ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากการที่ทะเลาะกับแฟนชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ อายุ 58 ปี ที่เพิ่งจะแยกกันอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน ร่วมถึงอาการป่วยเรื้อรัง

พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวว่า ผู้ตายอาศัยอยู่ประเทศไทยมาแล้วประมาณ 10 ปี ทำอาชีพเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จากการตรวจสอบของพฐ.คาดว่าฆ่าตัวตายเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายบอกกับนิติบุคคลว่า ตนกำลังจะตาย แต่ไม่ได้บอกว่าป่วยเป็นโรคอะไร โดยขอให้นิติบุคคลช่วยทำพินัยกรรมและเป็นพยานให้กับแฟนที่เป็นผู้หญิงคนไทยกระทั่ง 3 เดือนที่ผ่านมา จะขอยกเลิกพินัยกรรม และเลิกรากับแฟนโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่แฟนก็แวะเวียนมาเยี่ยมอยู่บ่อยครั้ง คงต้องเรียกแฟนมาสอบปากคำต่อไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก่อนจะเชิญตัวแฟนของผู้ตายมาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนศพนำส่งนิติเวชรพ.ตร.เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน