ลูกสาวอดีตนายพลตร. และนักการเมืองดัง แจ้งจับร.ต.อ. ข่มขืน-แบล็กเมล์
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ สน.พระโขนง นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความพร้อม น.ส.เอ (นามสมมุติ)ลูกสาวอดีตนายพลตำรวจและนักการเมืองชื่อดัง เข้าพบพ.ต.ท.พีรธรรม คำจร รอง ผกก.(สอบสวน) สน.พระโขนง รักษาการแทน ผกก.สน.พระโขนง
เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตำรวจยศ ร.ต.อ.ในพื้นที่ บก.น.8 ที่ข่มขู่เอาเงิน โดยขู่ว่าหากไม่ให้จะแฉภาพลับลงโซเชียล
ด้านน.ส.เอ เผยว่า รู้จักกับตำรวจนายนี้ เมื่อปี 2562 ที่โรงพักแห่งหนึ่ง ย่านฝั่งธนบุรี หลังไปเยี่ยมน้องสาวที่รู้จักกันที่ถูกจับคดียาเสพติด โดยตำรวจนายดังกล่าวอาสาช่วยเหลือเรื่องคดี หลังจากนั้นก็ติดต่อพูดคุยในฐานะคนรู้จักกัน
จนกระทั่งช่วงเดือนธันวาคมปี2562 ตำรวจนายนี้อาสาไปรับลูกและหลานมาส่งให้ที่บ้าน จากนั้นก็ใช้กลอุบายขอดื่มเบียร์และดื่มไวน์ที่บ้าน ก่อนอ้างว่าเมาขับรถกลับไม่ได้ และขอนอนพักที่โซฟา ตนเห็นว่ามีเด็กอาศัยอยู่ในบ้าน คิดว่าน่าจะไม่มีเหตุการณ์ไม่ดี
แต่สุดท้ายช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ตำรวจนายนี้ได้เรียกให้ตัวเองช่วยปิดไฟ พอตนปิดไฟก็ถูกตำรวจนายนี้จับตนลงนอนและข่มขืนพร้อมถ่ายคลิปไว้เพื่อแบล็กเมล์
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตำรวจคนนี้จะคอยบังคับให้ตนเองไปเปิดโรงแรมหรือเปิดอพาร์ทเม้นท์หลับนอน หากไม่ทำตามก็จะข่มขู่ว่าจะนำคลิปที่ถ่ายไว้เผยแพร่ ทั้งนี้ตนมีสามีเป็นชาวต่างชาติ ไม่เคยมีเจตนาที่จะนอกใจ แต่ที่ต้องยอมเพราะถูกข่มขู่ทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้ตนทนไม่ไหวกับพฤติกรรมดังกล่าว จึงต้องการให้สังคมรับรู้ว่าตำรวจนายนี้ มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่ควรทำหน้าที่ตำรวจอีกต่อไป จึงมาแจ้งความดำเนินคดีและขอยืนยันว่า จะดำเนินคดีกับนายตำรวจคนดังกล่าวจนถึงที่สุด
ขณะที่พ.ต.ท.พีรธรรม กล่าวหลังรับแจ้งความว่า หลังจากนี้จะเรียกพยานมาสอบปากคำเพิ่มเติมและคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้ตำรวจนายดังกล่าวมาให้ปากคำ มั่นใจว่าคดีนี้จะสามารถสรุปสำนวนได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้เสียหายมีพยานและหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย
สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ต้องให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาพบกับพนักงานสอบสวนก่อน จึงจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายได้ต่อไป
