อดีตดาราสาว เจ้าของรถปอร์เช่ สีเหลือง โผล่แจ้งตำรวจ เผยไม่รู้ถูกเอาไปก่อเหตุยิงถล่มบ้าน “เสี่ยตี๋” ด้าน ตร.จ่อเรียก ‘อธิป’ ให้ปากคำ 3 ส.ค.นี้
จากกรณี สนน.หลักสอง รับแจ้งเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ 11 คน ขับรถหรูปอร์เช่ สีเหลือง ป้ายแดง เลขทะเบียน ล 7195 กรุงเทพฯ บุกยิงถล่มคู่อริถึงบ้านพัก ซอยพุทธมณฑล สาย 2 แยก 11 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
วันที่ 2 ส.ค. ที่สน.หลักสอง รายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.ชลธิชา ชัยชิต หรือ น้องเตย อายุ 22 ปี อดีตดารานักแสดง และ นายจิรวัฒน์ เลิศกษิต อายุ 33 ปี แฟนหนุ่ม ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงตัวเป็นเจ้าของรถปอร์เช่คันเกิดเหตุ พร้อมเอกสารการเช่ารถของ นายอธิป (ขอสงวนนามสกุล) เมื่อคืนวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา
จากการสอบปากคำ น.ส.ชลธิชา ให้ข้อมูลว่า ตนเองและแฟนหนุ่มไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายอธิป แต่ก่อนหน้านี้ในช่วงโควิด-19 ตนและแฟนหนุ่ม อยากทำธุรกิจขายหน้ากากอนามัย และทราบว่านายอธิปทำธุรกิจทางด้านนี้ จึงนำหน้ากากอนามัยมูลค่า 5 แสนบาท ไปฝากนายอธิปขาย แต่นายอธิปกลับไม่ขายให้ ตนจึงให้แฟนหนุ่มไปเอาหน้ากากอนามัยกลับมาขายเอง
น.ส.ชลธิชา ให้ข้อมูลต่อว่า ส่วนเรื่องการเช่ารถปอร์เช่คันเกิดเหตุ ได้รับการติดต่อจากนายหน้าว่านายอธิปขอเช่ารถ ตอนแรกตนเองและแฟนหนุ่ม ไม่อยากให้เช่า แต่คิดว่าถ้าเช่าผ่านนายหน้า ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จึงยอมให้นายอธิปเช่ารถในราคา 20,000 บาทต่อวัน และทำสัญญาเช่าเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเอารถไปส่งที่บ้านของนายอธิปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง กระทั่งเมื่อวานนี้พบว่ารถตนเองอยู่ในภาพข่าว จึงนำหลักฐานเข้าแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.หลักสอง กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำ นายธนกฤต สถิจชวา หรือ เสี่ยตี๋ เบื้องต้นแล้ว ซึ่งนายธนกฤตอ้างว่า สาเหตุเป็นเรื่องของธุรกิจ แต่จะมีความขัดแย้งอย่างที่เสี่ยตี๋กล่าวอ้างหรือไม่นั้น ต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม
พ.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ได้รับการประสานจากทางนายอธิป ผู้ที่ขับรถปอร์เช่คันดังกล่าวในวันเกิดเหตุ เข้าสอบปากคำในวันที่ 3 ส.ค.นี้ แต่ยังไม่ได้มีการนัดเรื่องเวลา เนื่องจากนายอธิป ต้องการขอปรึกษาทนายความก่อน
พ.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายอธิป อัดคลิปลงโซเซียลมีเดียว่าพวกตนไม่ได้ยิงเสี่ยตี๋ แต่ถูกกลุ่มเสียตี๋ระดมยิงอยู่ฝ่ายเดียว พ.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานว่าที่บ้านของเสียตี๋มีหัวกระสุนของกลุ่มนายอธิปหรือไม่ จากการลงพื้นที่ของกองพิสูจน์หลักฐานเบื้องตน ไม่พบร่องรอยการยิง และหัวกระสุนภายในบ้านของเสี่ยตี๋
พ.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ นายอธิปยังกล่าวอ้างว่า กลุ่มตนเองถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 6 คน และ 1 ในนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นตายเท่ากัน อยู่ในห้องไอซียูนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บเพียง 2 คน คือ นายอภิรักษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ซึ่งถูกยิงที่แขน และอีกคนคือ นายอธิป คนขับรถปอร์เช่ ซึ่งถูกกระจกบาดตามร่างกาย
ขณะที่ พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 กล่าวว่า ได้เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวเมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายอธิป เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนและสอบสวน ลงพื้นที่เพื่อรวบรวมพยานบุคคลและพยานหลักฐานแวดล้อมเพิ่มเติม
พ.ต.อ.นครินทร์ กล่าวต่อว่า ก่อนที่วันที่ 3 ส.ค.นี้ จะสั่งการให้พนักงานสอบสวนสน.หลักสอง ออกหมายเรียกนายอธิปมาสอบปากคำ อย่างไรก็ตาม อยากขอฝากประชาสัมพันธ์สำหรับบุคคลที่ปรากฏอยู่ในข่าว ถึงแม้จะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องก็ตาม ขอความร่วมมือเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.หลักสอง ต่อไป
_______________________________________________________
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
