ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สั่งแขวน SP หุ้นสายการบินนกแอร์ ห้ามซื้อขายชั่วคราว เหตุไม่สรุปงบการ 31 มี.ค.63 ขณะที่ไตรมาสแรกขาดทุนยับ 4.3 พันล้าน

วันนี้ (14ส.ค.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ขึ้นเครื่องหมาย SP และ NP ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราวหลักของ NOK หรือ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กรณีผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2563 โดยมีกำหนดปลดเครื่องหมายวันที่ 17 ส.ค.

ขณะที่วันนี้บริษัท สายการบินนกแอร์ฯ และบริษัทย่อย แจ้งผลการดำเนินงานช่วง ไตรมาสที่ 1 ปี 2563 (ม.ค.-มี.ค.) ไปยังตลท. ผลประกอบการขาดทุน 2,963 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนจำนวน 391.29 ล้านบาท แบ่งเป็นผลขาดทุนของบริษัทใหญ่ 2,330.05 ล้านบาท และผลขาดทุนจากส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศของสายการบิน อีกทั้งการจำกัดการเดินทางทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารลดลง ทำให้สายการบินนกแอร์ได้ทยอยยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเส้นทางที่จีนทั้งหมดเป็นการชั่วคราว เวียดนาม พม่า และญี่ปุ่น

โดยอัตราการใช้เครื่องบินต่อลำเฉลี่ยลดลงจาก 9.71ชั่วโมง/วัน เป็น 8.35ชั่วโมง/วันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือลดลงร้อยละ 14.01 ส่งผลให้รายได้บริษัทฯ ลดลงค่อนข้างมาก ในขณะที่บริษัทยังคงต้องแบกรับภาระต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินงาน โดยเฉพาะต้นทุนคงที่ที่ค่อนข้างสูงในอัตราเท่าเดิม

“ไตรมาสที่1 บริษัทมีรายได้จากรวม 2,614.21ล้านบาท ลดลงร้อยละ 24.64 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีค่าใช้จ่าย รวม 6,986.28 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีค่าใช้จ่ายรวม 3,750 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลขาดทุนจากการเลิกกิจการของบริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เป็นยอดเงิน 2,402.10 ล้านบาท

และรับรู้ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยน จากการนำมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 16 เรื่อง สัญญาเช่ามาใช้เป็นยอดเงิน 1,054 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิรวมจำนวน 4,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนจำนวน 281.27 ล้านบาท”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน