จากกรณีที่ญาติของพลฯทหารนพดล วรกิจพันธ์ หรือ น้องทาโร่ อายุ 21 ทหารกองประจำการ มทบ.45 ได้ร้องขอความเป็นธรรม เชื่อว่าถูกซ่อม (ลงโทษทางวินัย) จนมาเกิดการเสียชีวิตที่บ้าน โดยมี 2 พลทหาร พากลับมาที่บ้านและแจ้งให้พี่สาวทราบว่า น้องทาโร่ ถูกซ่อม (ลงโทษทางวินัย) ก่อนน้องทาโร่ แจ้งกับพี่สาวเพียงว่ารู้สึกเพลียมาก และขอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนอน หลังจากนั้นไม่ถึง 20 นาทีพบว่านอนเสียชีวิตอยู่ในห้อง ในสภาพมีเลือดออกตามปากและจมูก จึงได้พาร่างน้องทาโร่ ส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และร้องขอให้แพทย์ทำการผ่าตรวจชันสูตรศพอย่างละเอียด โดยปักใจเชื่อว่าถูกซ่อม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.ลิขิต ชุมช่วย สว.สส. สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมชุดสืบสวน ได้เดินทางไปที่กองร้อย มทบ.45 เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด หลังจากที่พนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำ พลฯทหาร 2 นายที่นำน้องทาโร่ มาส่งที่บ้านพัก ซึ่งระบุเวลาว่าประมาณ 21.00 น. ซึ่งจากการตรวจสอบเมื่อเวลา 20.45 น. (เวลาจริง 20.58 น.) ปรากฏภาพวงจรปิดที่จับภาพ ขณะพลฯทหารนพดล ซึ่งสวมชุดลำลองทหาร กับพลฯทหารรุ่นพี่ คือ พลฯทหารชัยฤกษ์ อัครกุล นั่งอยู่ที่เวรยามประจำคลังอาวุธ โดยทั้งคู่ นั่งอยู่นานกว่า 14 นาที หลังจากนั้น ได้พากันเดินออกไปจากบริเวณดังกล่าว
ซึ่งสอดคล้องกับการสอบปากคำ พลฯทหารชัยฤกษ์ อัครกุล และ พลฯทหาร ปริญญา ราชจินต์ ว่า ได้พากันชักชวนออกจากค่ายจริง โดย พลฯทหารปริญญา เป็นผู้ไปรับรถจักรยานยนต์จากพี่สาว ที่นำมาจอดทิ้งไว้ข้างค่ายทหาร แล้วกลับมารับทั้ง 2 ออกจากจุดเวรยามประจำคลังอาวุธ ก่อนพากันไปที่บ้านพักของ พลฯทหารนพดล เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและมีกำหนดจะไปร่วมงานโชว์รถจักรยานยนต์ที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
ทางด้าน พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ซึ่งควบคุมการสอบสวนในคดี กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวน ติดตามพยานมาสอบปากคำ ถึงเหตุการณ์หลังจากที่ พลฯทหารนพดล แยกกับครอบครัว หลังเสร็จงานทำบุญ ว่าได้เดินทางไปยังที่ใดบ้างก่อนกลับเข้าค่ายฯเมื่อเวลา 18.00 น. ทั้งนี้ในการสอบสวนปากคำพยานจะมีการเชิญญาติผู้เสียชีวิตเข้าร่วมรับฟังด้วยทุกขั้นตอน ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
